Archive for category Restaurant Marketing

5กิมมิคอาหาร ที่จะทำให้ร้านปังมาก!!

5กิมมิคอาหาร ทำให้ร้านปังมาก
ทำธุรกิจร้านอาหารสมัยนี้ แค่อาหารอร่อย หรือบรรยากาศร้านดีอย่างเดียว มันอาจเรียกความสนใจจากลูกค้าได้ไม่มากพอเสียแล้ว สมัยนี้มันต้อง มีกิมมิค Gimmick ลูกเล่นที่ใส่ลงไปในอาหาร หรือมีลูกเล่นในการนำเสนออาหารที่แตกต่างไม่เหมือนใคร ถึงจะสามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้สนใจร้านคุณได้ เป็นอีกหนึ่งวิธีโปรโมทร้านอาหาร ที่ได้ผลเสมอถ้าคุณค้นพบกิมมิคนั้นได้ แล้วทำให้มันโดดเด่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนดึงลูกค้าให้มาลองที่ร้านได้ หรือทำให้ลูกค้าถ่ายรูป ถ่ายคลิปแชร์โซเชียลได้ ก็คือว่าร้านคุณเตรียมตัวดังได้เลย เอาละ เรามาดูกันว่า 5 กิมมิคอาหาร ที่จะทำให้ร้านปังมาก มีอะไรกันบ้าง

5กิมมิค ลูกเล่นสำหรับร้านอาหารและคาเฟ่มีดังนี้

1.เมนูจานยักษ์ กิมมิคแรกที่ขอแนะนำ เป็นกิมมิคเลเวลBeginner เรียกลูกค้าแบบไม่ต้องคลีเอตอะไรมากมาย แค่ทำให้อาหารจานนั้นให้มันใหญ่ขึ้นระดับ SuperSize หรือใหญเบิ้มขึ้นเป็น 2เท่าตัว 3เท่าตัว หรือ4เท่าตัว ก็สร้างความน่าสนใจให้กับร้านคุณได้แล้ว

บะหมี่จอมพลัง กิมมิคอาหารจานยักษ์

GoldCurryBKK กิมมิคอาหารจานยักษ์

ยกตัวอย่างร้านบะหมี่จอมพลัง ตลาดนัดรถไฟ, ร้านอั๊ยยะ ก๋วยเตี๋ยวซีฟู้ด , ร้านข้าวมันไก่ศรีเหลืองโภชนา , ร้าน Gold Curry Bangkok
คือร้านเหล่านี้อาหารไซต์ธรรมดานั้นมีอยู่แล้ว แต่การเพิ่มจานไซต์ยักษ์ ทำให้เกิดความสนใจของผู้คนมากขึ้น และที่มักจะทำกันคือ มีกิจกรรมแข่งขันกินอาหารจานยักษ์ในเวลาจำกัด กินหมดไม่ต้องจ่ายตังค์ หรือบางร้านถ้าสั่งไซต์ Super XXL กินหมดภายในเวลากำหนด นอกจากกินฟรีแล้วยังได้เงินเป็นรางวัลซะอีกด้วย
กิมมิคเมนูพรีเมี่ยม ก๋วยเตี๋ยวต้มยำพี่อ้อ

2. สร้างเมนูซูเปอร์พรีเมี่ยม อีกกิมมิคที่น่าสนใจ สำหรับร้านอาหาร ที่เดิมอาจขายอาหารธรรมดาที่ใครๆก็ขายกันเช่นร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ก็เพิ่มเมนูที่ใส่วัตถุดิบระดับซูเปอร์พรี่เมี่ยมเข้าไป ทำให้ดูโดดเด่น สะดุดตาเมื่อถ่ายรูป
ยกตัวอย่างร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำพี่อ้อ ปกติขายก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง อยู่แล้วก็เพิ่มเมนูเป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้งลอบสเตอร์เข้าไป ใส่กุ้งไปเลยทั้งตัว ให้ตัวกุ้งมันลอยเชิดหน้าชูตา ดูโดดเด้งสะดุดตาคน ตั้งชื่อเมนูเก๋ๆ โดนใจวัยรุ่น รับรองเป็นใครก็ต้องหยิบมือถือแล้วถ่ายรูปแน่นอน บางทีโต๊ะข้างๆอาจขอมาถ่ายรูปด้วยก็เป็นได้ ส่วนแม่ค้าเองก็อย่าลืมโปรโมทแรงๆผ่านโซเชียล มีวิธีการอีกมากมายที่กระตุ้นยอดได้จากการสร้างเมนูซูเปอร์พรีเมี่ยมขึ้นมา
กิมมิคอาหาร ยืดได้ ไหลได้ เยิ้มได้

3. “ยืด ไหล เยิ้ม” จำไว้ 3 คำนี้วัยรุ่นชอบมาก สร้างเมนูใหม่ๆออกมาแล้วเวลาจะทาน มันสามารถยืดได้ ไหลได้ เยิ้มได้ ลูกค้าชอบแน่นอน ยกตัวอย่างชีส มันเป็นวัตถุดิบที่วัยรุ่นหลายๆคนหลงไหล ระดับที่มีกลุ่ม CheeseLover กันเลย เพราะความอร่อยและฟีลลิ่งการยืดได้ เยิ้มได้ ขณะทาน จนมีบางคนกล่าวไว้ว่า “เพียงร้านคุณมีเมนูอะไรก็ได้ที่มีชีสเป็นพระเอก คุณก็จะได้ฐานลูกค้ากลุ่มคนรักชีสตามไปกินแน่นอน” ลองคิดสรรเมนูใหม่ที่เพิ่มชีสแบบที่ยืดได้มาใส่ไว้ด้วย รับรองลูกค้าชอบแน่นอน ยิ่งถ้าเป็นเมนูที่ปกติเวลากินมันไม่มีชีสอยู่แล้ว แต่คุณประยุกต์การเพิ่มชีสมาใส่ในเมนูนั้นๆ แล้วทำให้ลูกค้าได้รับสัมผัสของฟีลลิ่งเวลายืดชีสก่อนทานได้ เมนูนั้นจะได้รับความนิยมมากขึ้นแน่นอน

หรือแม้กระทั้งปัจจุบันนี้ ร้านชาบูและร้านปิ้งย่าง ที่ขายกันหัวละ 299-399 ตอนนี้ก็มีการเพิ่มชาบูชีส เข้าไปแล้ว ใส่มอซซ่าเรล่าชีส ให้มันห่อชิ้นเนื้อหมู เนื้อกุ้งก่อนทาน ลูกค้าวัยรุ่นจะชอบมาก

นอกจากชีส อาการ ไหล+เยิ้ม ยังสามารถใช้ได้กับเมนูอาหารอื่นๆอีก เช่น ซาลาเปาไส้ไหล ซาลาเปาลาวา บิออกมาแล้วมีไส้ไข่เค็มแดงๆไหลเยิ้มออกมา หรือขนมโทสต์เช่น โทสต์ผ่ากลางแล้วมีไส้ไหลออกมาได้ ก็ถือว่าอยู่ในกิมมิคประเภทนี้ด้วยเช่นกัน
กิมมิค ภาชนะแปลกๆร้านแล้วแต่กระเพราแท้

4. ภาชนะแปลกตา ถ้าอาหารที่คุณขายมันสร้างความแตกต่างได้ยาก หรือเพิ่มวัตถุดิบแพงๆแล้วคนไม่ซื้อ ก็ลองเปลี่ยนภาชนะในการเสิร์ฟดูไหม อาหารคุณจะดู Cool ขึ้นไปอีกระดับ หรือบางร้านก็เปลี่ยนภาชนะแล้วเรียกความฮา ความกวน ได้เลยเช่นกัน
ตัวอย่าง : ร้านแล้วแต่กระเพราแท้ ขอนแก่น เน้นขายข้าวผัดกระเพรา แต่ความแปลกของร้านนี้คือ ถ้าลูกค้าสั่งว่าเสิร์ฟใส่อะไรมาก็ได้แล้วแต่พ่อค้า พ่อค้าร้านนี้จะเลือกภาชนะแปลกๆที่ไม่นึกว่าจะเอามาให้ลูกค้าใส่อาหารมาเสิร์ฟกัน เช่น กระทะของร้านหมูกระทะ  กระบวยตักน้ำ ที่ตักน้ำแข็ง กาต้มน้ำ กระทะไฟฟ้า หม้อหุงข้าว ตาชั่งกิโล จานข้าวหมา(ก็มีนะ) ซึ้งสร้างรอยยิ้มและเรียกเสียงฮาให้ได้มากพอสมควร เพราะลูกค้าก็ต้องคอยลุ้นว่าอาหารที่สั่งไปแล้ว เขาจะเสิร์ฟใส่อะไรมาให้ เป็นการลุ้นก่อนจะได้ทาน และด้วยความแปลกของกิมมิคอันนี้ก็ทำให้ไปสะดุดตารายการทีวีหลายๆช่อง จนมาติดต่อขอถ่ายทำไปออกอากาศ ได้ช่องทาง Free Media ไปอีกมากมาย

 

กิมมิค เพิ่มดรายไอซ์ สร้างจุดขาย

5. Dry Ice ถ้าคุณขายของหวานที่เป็นแนวไอศกรีมหรือของที่เย็นๆ การเพิ่มกิมมิคโดยการใส่ดรายไอซ์ลงไป ก็เป็นเทคนิคที่เรียกแขกได้เช่นกัน ตอนนี้เริ่มมีร้านที่ขายไอศกรีม หรือเครื่องดื่มเริ่มใช้เทคนิคการเพิ่มดรายไอซ์เข้าไป ทำให้เวลาเสิร์ฟลูกค้า มันจะได้ฟีลลิ่งของความเย็นลอยรอบๆชาม ถ่ายรูปแล้วอัพโซเชียล เพื่อนๆกดLike แน่นอน
ตัวอย่าง ” ร้านJaiyen Cafe  ที่เสิร์ฟไอศกรีมพร้อมดรายไอซ์ มาพร้อมชื่อ JaiyenShabu , ร้านยศเสไอติมหม้อไฟ ที่เสิร์ฟไอติมมาในภาชนะคล้ายๆหม้อไฟ แล้วเพิ่มกิมมิคโดยการใส่ดรายไอซ์ไว้ตรงกลาง เวลาเสิร์ฟลูกค้าค่อยเทน้ำลงไป ดรายไอซ์ก็จะปล่อยควันลอยๆอบอวลไปทั่ว วัยรุ่นคนไหนไม่หยิบมือถือมาถ่ายรูปไว้ก็ใจแข็งเกินไปแล้ว

 

นี้คือตัวอย่าง 5 กิมมิค ระดับพื้นๆที่ช่วยทำให้ร้านคุณ “มีอะไร” มากกว่าเดิม สร้างความดึงดูดลูกค้าให้มาที่ร้านคุณมากขึ้น…. เปิดร้านอาหารในยุคโซเชียลแบบนี้ มันต้องมีลูกเล่นนะครับ เพราะความแปลก มันจะช่วยไวรัลแนะนำต่อจากกลุ่มลูกค้าไปอีกเรื่อยๆ ฝากเอาไว้ให้คิดกันนะคับ และถ้าหากคุณมี กิมมิคอะไรแปลกใหม่ อยากนำเสนอมาให้เราดู คอมเม้นต์มาด้านล่างได้เลยนะ   ^^

Tags: , , , , , ,

ร้านอาหารควรทำอย่างไรเมื่อเกิดข้อร้องเรียนจากลูกค้าในโลกออนไลน์

พอดีไปเห็นแฟนเพจของ Positioning Mag แม็กกาซีนการตลาดชื่อดังโพสรูปอธิบายวิธีการรับมือดราม่าบนโลกออนไลน์ จากเว็บพันทิป เห็นว่ามีประโยชน์ต่อเจ้าของร้านอาหารทั้งหลาย เลยขออนุญาตเอามาแชร์ต่อครับ

Drama

ปัจจุบันนี้ต้องยอมรับว่า เสียงผู้บริโภคนั้นดังกว่าแต่ก่อนมากครับ หากไม่พอใจบริการหรืออาหารของร้านใดๆ เขาสามารถมาบ่นหรือมาป่าวประกาศ บนโลกออนไลน์ได้อย่างง่ายดายมาก ทั้งบน Social Network หรือเว็บบอร์ดใหญ่ๆดังเช่นพันทิป ดังนั้นเจ้าของร้านต้องเตรียมรับมือให้ดีครับ

ทุกวันนี้การแชร์ต่อบนโลกอินเตอร์เน็ตมันง่ายมากจริงๆ แค่กดเม้าท์ไม่กี่คลิกก็แชร์-ส่งต่อเรื่องราวดราม่าไปสู่คนอื่นได้อย่างง่ายและรวดเร็วมาก เจ้าของร้านอาหารทุกท่านจงพีงระวังไว้นะครับ ถ้าหากลูกค้าเกิดการไม่พอใจในบริการ หรืออาหารที่ได้รับ จากร้านของท่าน แล้วท่านไม่สามารถจัดการปัญหานั้นได้อย่างรวดเร็ว และจบอย่างสวยงามภายในวันที่เกิดเรื่องขึ้นได้ อาจจะมีกระทู้ร้องเรียน กระทู้ก่อดราม่าบนเว็บบอร์ดดังๆ เช่นพันทิป ก็ได้ ซึ้งวิธีรับมือตามรูปข้างบนนี้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องรู้ไว้เลย แบรนด์จำเป็นจะต้องออกมาแสดงตัวอย่างรวดเร็วและรับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น แล้วหาวิธีแก้ไข หรือตอบแทนต่อสิ่งที่ลูกค้าไม่พอใจ  อย่างกรณีเว็บพันทิป หากร้านอาหารของท่านถูกลูกค้าที่ไม่พอใจ ตั้งกระทู้กล่าวถึงบ่อยครั้ง ข้อแนะนำของผมคือ ร้านควรสมัครสมาชิก Login ในนามของร้านไว้เลย แล้วเมือไรมีกระทู้ร้องเรียนขึ้น ก็รีบเข้าไปตอบกระทู้อย่างเร็วไว อย่าปล่อยให้ไทยมุงมาเยอะ หรืออย่าปล่อยทิ้งไว้นาน (อาการไทยมุง คือหลังการตั้งกระทู้พร้อมแสดงความไม่พอใจของเจ้าของกระทู้แล้ว ยังไม่มีการตอบสนองจากร้านค้า คนอื่นๆก็จะมารุมด่า รุมบ่น เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ ก่อดราม่า ทวีความรุนแรงมากขึ้น) ถ้าแต่ร้านรู้เรื่องเร็ว อาจช่วยตัดไฟแต่ต้นลมไว้ได้ และเรืองจะไม่บานปลาย

 

 

-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

รับโปรโมท ประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร ,ดูแลการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจร้านอาหาร
ด้วย Digital Marketing สร้างช่องทางใหม่ๆ เรียกลูกค้าผ่านออนไลน์
-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

Tags: ,

วิธีทำป้ายชื่อร้าน-ชื่ออาหาร ให้ขายฝรั่งต่างชาติสำหรับร้านริมถนน

เดินผ่านร้านไก่ทอดแถวๆสีลม ร้านนึงอยากจะชื่นชมเจ้าของจัง ผมยกให้เป็นตัวอย่างร้านขายอาหาร SME ดีเด่นเลย ขายของย่านฝรั่งเยอะๆอย่าง งี้ควรทำป้ายเป็น 2 ภาษาครับ เขียนชัดๆไปเลยว่าขายอะไร-ราคาเท่าไร-ทำให้ร้านดูดีขึ้นเยอะ-ฝรั่ง-คนจีน-ญี่ปุ่น-ชาติใดๆมาก็อ่านออก ดูแล้วกล้าซื้อ อีกอย่างทำสะอาดๆด้วยนะ ดูคลีนๆ ทำป้ายให้น่าดูน่าอ่าน ทำร้านให้สะอาดดูมีอนามัย ใครเห็นก็อยากอุดหนุน

อย่างร้านนี้ชื่อร้าน “ตี๋คอนแวนต์” ขายไก่ทอด แต่ดูป้ายสิครับ เขียนคำอธิบาย ชิ้นส่วนไก่ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษชัดเจนดีมาก แถมบอกราคาแบบชัดๆเลย ฝรั่งหรือคนต่างชาติพอเห็นว่าเป็นไก่ทอดก็เข้าใจแล้ว ยิ่งพออ่านป้ายของแต่ละประเภท ก็ยิ่งเก็ทง่ายขึ้น อีกอย่างร้านนี้เขาทำป้ายด้านบน กับการวางสินค้าไว้ตรงกับตำแหน่งดีมากด้วยครับ ใครเห็นก็เข้าใจได้ไม่ยากเลย

StreetFood_sign2lang

 

ส่วนตัวผมชอบไปเดินหน้าห้าง CentralWorld บ่อยๆแม่ค้าแถวนั้นแทบไม่มีใครทำป้ายภาษาอังกฤษเลยว่าขายอะไร-ราคาเท่าไร ซึ้งร้านรถเข็นหน้าเซ็นทรัลเวิร์ดก็มีขายหลายประเภท ทั้งส้มตำ-น้ำตก-ลูกชิ้น-หมูย่าง-ก๋วยเตี๋ยว-ข้าวตามสั่ง

ผมเคยเห็นบ่อยๆ พวกคนจีน-ญี่ปุ่น ที่เดินอยู่หน้าห้างเซ็นทรัลเวิร์ด เขายืนดูอยู่หน้าร้าน ท่าทางอยากซื้อมากๆ แต่ไม่รู้ว่าขายอะไร หรือไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร สั่งยังไง ราคาเท่าไร แม่ค้าส่วนใหญ่ภาษาอังกฤษก็พูดไม่ค่อยได้ด้วย เลยอดได้ยอดขายจากต่างชาติเลย จริงๆน่าเสียดายแทนแม่ค้า ถ้าทำป้ายเขียนภาษาอังกฤษสักนิด (หรือถ้าจะเป็น 3 ภาษา ใส่ภาษาจีนลงไปอีกด้วยก็ยิ่งขายดีเข้าไปใหญ่)

จริงๆถ้าคิดจะทำป้าย เขียนว่าขายอะไรบ้างเป็นภาษาอังกฤษ (หรือภาษาจีน-ญี่ปุ่น เพิ่มเข้าไปอีก) ก็ถือว่าลงทุนไม่มากเลย แถมได้ยอดขายเพิ่มขึ้นอีกเยอะด้วย เอาเป็นว่าผมแนะนำเลยครับ เหล่าพ่อค้า แม่ค้าแบบริมถนนในย่านที่ฝรั่งเยอะๆ ผมเชียร์สุดใจขาดดิ้น ให้พวกพี่เริ่มปรับร้านให้เข้ายุค AEC ซักทีนะ ทำป้ายบอกชัดๆไปเลยว่าขายอะไร โดยวิธีการก็ไม่ยากครับ

  1. ดูว่าร้านเราขายอาหารอะไรบ้าง มีกี่ประเภท ราคาเท่าไรบ้าง
  2. ชื่ออาหารภาษาไทยเรารู้กันอยู่แล้ว วิธีการหาชื่อภาษาอังกฤษไม่ยากนัก ง่ายที่สุดเข้าไปเสิร์ชหาจากกูเกิลเลย เช่น ร้านข้าวหมูแดง ก็เสิร์ชกูเกิลด้วยคำว่า “ข้าวหมูแดง ภาษาอังกฤษ” แล้วจะเจอผลการค้นหาหลายๆเว็บลองเข้าไปดูครับ มีหลายเว็บเขียนบอกไว้อยู่แล้ว อย่างเช่นที่ผมลองค้นหาเองจากกูเกิลเจอมาคือ

-ข้าวหมูแดง – BBQ pork with stream rice
-ข้าวหมูกรอบ – Roasted pork with stream rice
-ข้าวหน้าเป็ด – Roasted duck with stream rice
-ข้าวมันไก่ – Boiled chicken with oily rice
-บะหมี่ – Egg noodles
-เกี๊ยว – Wonton
-หอยทอด – Pan-fried crispy mussel with bean sprout
-เย็นตาโฟ – Noodles with seafood soup and red sauce (ชนิดของเส้น เช่น เส้นเล็ก = rice noodles, บะหมี่ = egg noodles, เส้นหมี = rice vermicelli, วุ้นเส้น = vermicelli, เส้นใหญ่ = flat rice noodles)
-ผัดซีอิ้ว – Stir fried noodles with egg, pork, green vegetables, and sweet soy bean sauce
-ราดหน้า – fried noodles with gravy, chineses broccoli, and choice of meat (e.g. chicken, pork, beef, and seafood)

3. ถ้าหาจากกูเกิลแล้วยังไม่ได้ชื่ออาหารที่ร้านคุณขาย ก็ลองไปตั้งกระทู้ถามชาวพันทิปดูครับ ผมเห็นบ่อยๆ มีคนมาตั้งกระทู้ถามว่าอาหารอย่างนี้ ภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไร ภาษาจีนเรียกว่าอะไร เดี๋ยวก็มีคนรู้มาช่วยตอบให้เอง

4. รวบรวมข้อมูลทั้งหมด เดินไปหาร้านทำป้าย บอกเขาว่าจะทำป้ายขนาดเท่าไร เขียนอะไรบ้าง จริงๆอีกอย่างที่อยากให้เพิ่มนะ ถ้ามีรูปอาหารด้วยจะยิ่งเวิร์คมาก เหมือนเวลาไปร้านฟาส์ฟู้ด เห็นรูป+ชื่ออาหาร+ราคา ดูแป็ปเดียวเก็ทเลย และอย่างลืมใส่หมายเลขกำกับไว้ด้วย เช่น No.1 ข้าวหมูแดง No.2 คือข้าวหมูกรอบ No.3 ข้าวหน้าเป็ด อะไรอย่างงี้ ฝรั่งบางชาติพูดภาษาแล้วฟังยาก ให้เขาบอกว่าจะกินอาหาร Number อะไรบอกมา อย่างงี้ก็ง่ายด้วยทั้งแม่ค้า และคนสั่ง

แค่นี้แหละ ก็ขายอาหารให้ฝรั่งได้แล้ว โดยที่ไม่ต้องเก่งภาษาอังกฤษเลย

ผมจำได้เคยอ่านข่าวมาว่า StreetFood เมืองไทย หรือร้านอาหารริมถนนของบ้านเรานี้อร่อยติดอันดับโลกเลยนะ จนฝรั่งชาติใดๆมาเที่ยวก็อยากจะมาลองอาหารแบบบ้านๆ Street Food กันทั้งนั้น เพราะทั้งอร่อยและราคาประหยัดมากๆอีกด้วย

 

-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

รับโปรโมท ประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร ,ดูแลการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจร้านอาหาร
ด้วย Digital Marketing สร้างช่องทางใหม่ๆ เรียกลูกค้าผ่านออนไลน์
-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

Tags: , , ,

เจ้าของร้านโปรดทราบ!! ค่าถ่ายทอดฟุตบอลอังกฤษจาก CTH สำหรับร้านอาหาร

เอาข่าวนี้มาแจ้งกับเจ้าของร้านอาหารทุกท่านทราบครับ พอดีเจอกระทู้ในพันทิปเรื่องค่าถ่ายทอดสดบอลพรีเมียร์ลึก อังกฤษ สำหรับร้านอาหาร ร้านเหล้า ผับ บาร์ ที่มีการเปิดฟุตบอลให้ลูกค้ามาดูที่ร้าน

ตอนนี้ทาง CTH ซึ้งได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 3 ฤดูกาล ตั้งแต่ 2013 – 2015 ฟุตบอลที่คนไทยเราติดตามกันมากที่สุด หากร้านอาหารของท่านมีการเปิดถ่ายทอดสดฟุตบอลให้ลูกค้ามานั่งดูในร้าน ลองพิจารณาค่าเผยแพร่ด้วยนะครับ ซึ้งคิดราคาตามขนาดความกว้างของจอทีวี ตามนี้

 

Update 30/7/56 ทางเฟสบุ๊คของ CTH แจ้งราคาใหม่สำหรับร้านอาหาร มาแล้วนะครับ ปรับราคาลงอีกนิดจากราคาที่ออกมาครั้งแรก (ดูราคาช่วงแรก ได้จากภาพล่าง)

CTH_Premier_update300756

 

(ภาพด้านล่างนี้เป็นราคาเก่า นะครับที่ออกมาช่วงแรก ราคาจะสูงกว่าโปรใหม่ และยังไม่มีราคาเหมารายปี)

 

CTH_restaurant

 

ลองพิจารณาดูครับ ว่าราคานี้คุ้มทุนสำหรับร้านของท่านไหม เพราะบางกระแสก็ว่าแพงเกินไป(สำหรับร้านเล็กๆ ร้านตจว.) แต่สำหรับร้านกลางๆ-ใหญ่ หรือร้านสไตล์ผับ-บาร์ ยังไงก็ต้องมีบอลอังกฤษให้ลูกค้าดูอยู่แล้ว เพราะถือเป็นจุดขายหนึ่งเลยที่ทำให้ลูกค้าเดินเข้าร้าน

ถ้าร้านอาหารของท่านเปิดช่วงดึกๆ และใช้การดึงดูดลูกค้าเข้าร้านด้วยฟุตบอลอังกฤษก็ถือว่าต้องลงทุนจ่ายในส่วนนี้ แต่ถ้าเป็นร้านเล็กๆหน่อย ก็ลองคำนวณความคุ้มทุนละกันครับ ว่ารับไหวไหมสำหรับราคารายเดือนเท่านี้

สุดท้ายฝากเตือนด้วยว่าอย่าเอาแพ็คเกจที่ใช้ตามบ้านเรือน ไปใช้ในร้านอาหารนะ ถ้าถูกจับได้ ค่าปรับจะไม่คุ้มเสีย

 

Update เพิ่มเติม มีเคสร้านอาหารถูกจับ เรียกปรับ2แสน เพราะไม่รู้ ดันเอาแพ็คเกจ CTH แบบดูในครอบครัว ไปเปิดให้ลูกค้าในร้านอาหารดู แล้วโดนเจ้าหน้าที่จับ อ่านรายละเอียดได้ที่กระทู้พันทิป http://pantip.com/topic/33371813

เน้นย้ำ

เพื่อความสบายใจของท่านเจ้าของร้าน แนะนำว่าควรติดต่อไปที่ CTH โดยตรงโทร 1619 เพื่อสอบถามรายละเอียดสำหรับแพ็คเกจสำหรับร้านอาหาร ผับบาร์และสถานบริการ ดีกว่านะครับ  

-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

รับโปรโมท ประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร ,ดูแลการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจร้านอาหาร
ด้วย Digital Marketing สร้างช่องทางใหม่ๆ เรียกลูกค้าผ่านโลกออนไลน์
-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

 

 

Tags: , , , , , , , ,

อยากเปิดร้านอาหารใหม่ ต้องทำอย่างไรบ้าง

ธุรกิจร้านอาหารถือว่าเป็นธุรกิจฮอตฮิตที่ใครๆก็อยากทำ เพราะอาหารการกิน ถือเป็นปัจจัยสี่ในการดำรงชีวิตประจำวัน ยังไงซะคนเราก็ต้องทานอาหารวันละ 3 มื้อ ธุรกิจร้านอาหารในเมืองไทยเราจึงเป็นธุรกิจที่เฟื่องฟูมาก

Market shop.

ที่นี้เรามาดูว่าหากคิดจะเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเองสักร้านนึง เราต้องทำอะไรบ้าง

1.การจดทะเบียนพาณิชย์หรือทะเบียนนิติบุคคล ซึ้งแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะใหญ่คือ เมื่อจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจแล้ว จะมีสถานะเป็นบุคคลธรรมดาหรือเป็นนิติบุคคล

ลักษณะของธุรกิจที่จดทะเบียนเป็นบุคคลธรรมดา

  • เป็นการไปจดทะเบียนเพื่อแจ้งให้รู้ว่าคุณได้เริ่มต้นประกอบกิจการอย่างถูกต้องและเปิดเผย มีหลักแหล่งและสถานที่ตั้งของกิจการชัดเจน มีชื่อปรากฎอยุ่ในระบบการค้าของประเทศอย่างถูกต้อง
  • เรื่องภาระตามกฎหมาย การทำนิติกรรมสัญญา การชำะภาษีเงินได้ ยังคงเป็นไปในนามของตัวคุณซึ้งเป็นเจ้าของกิจการ
  • การไปจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจแบบนี้เราเรียกว่า จดทะเบียนพาณิชย์ หรือที่คุ้ยเคยกันว่าทะเบียนการค้า
  • ขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่เกินชั่วโมงกับค่าธรรมเนียมเพียง 50 บาท ถ้าอยู่ต่างจังหวัดก็ไปยื่นจดทะเบียนพาณิชย์ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดของจังหวัดที่ตั้งกิจการ

ลักษณะของธุรกิจที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล

  • เมื่อจัดตั้งกิจการแล้วในทางกฎหมายถือว่าตัวธุรกิจนั้นๆ แยกออกโดยเด็ดขาดกับความเป็นบุคคลธรรมดาของเจ้าของกิจการ การจะทำการใดๆ เป็นไปในนามกิจการทั้งหมด เหมือนว่ากิจการนี้เป็นอีกหนึ่งบุคคลที่เกิดขึ้นมาตามกฎหมาย
  • ประเภทของการจัดตั้งธุรกิจใหม่ที่เป็นนิติบุคคล โดยส่วนใหญ่มี 2 ประเภทคือ บริษัทจำกัด และ ห้างหุ้นส่วนจำกัด
  • สถานที่ที่จะไปยื่นจดทะเบียนบริษัทจำกัดและห้างหุ้นส่วนจำกัด ถ้าในเขตกทม. ก็ไปยื่นจดได้ที่สำนักงานบริการทะเบียนธุรกิจ หรือที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าถนนนนทบุรี อ.เมือง จ.นนทบุรี ส่วนในต่างจังหวัด ติดต่อที่สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัด ซึ้งมีอยู่ทุกจังหวัด ดูข้อมูลเพิ่มเติ่มที่เว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th

 

กฎหมายควรรู้สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร

ถือเป็นเรื่องปวดหัวเล็กๆ แต่ก็ต้องรู้ไว้สักหน่อยถือข้อกฎหมายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่จะเปิด

ภาษีอากรสำหรับธุรกิจ SME

  • ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา  กิจการร้านค้าที่จดทะเบียนเป็นทะเบียนพาณิชย์ ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด 94 ในครึ่งปีแรก และยื่นแบบ ภ.ง.ด 90 อีกครั้งในครึ่งปีหลัง
  • ภาษีเงินได้นิติบุคคล ธุรกิจที่จะทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดและบริษัทจำกัด ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด 51 ในครึ่งปีแรกเพื่อประมาณการรายได้ จากนั้นเมื่อสิ้นปีจะยื่นแบบ ภ.ง.ด 52 พร้อมส่งงบดุลและมีการตรวจสอบบัญชีด้วย
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม ถ้าเป็นทะเบียนพาณิชที่มีรายได้ทั้งปีไม่ถึง 1,800,000 บาทต่อปี ไม่ต้องจดภาษีมูลค่าเพิ่มก็ได้ แต่ถ้ามีรายได้เกิน หรือเป็นธุรกิจที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล (ห้างหุ้นส่วนจำกัดและบริษัทจำกัด) ทุกรายต้องจดภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยต้องยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แบบ ภ.พ. 01) เพื่อจะสามารถคำนวณภาษีที่ต้องเสียจากภาษีขายหักด้วยภาษีซื้อ

กฎหมายแรงงาน

ถือเป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่ผู้ประกอบการ ต้องทำความเข้าใจ ซึ้งกฎหมายที่ควรให้ความสนใจคือ

กฎหมายเกี่ยวกับการจ้างแรงงาน

มีประเด็นสำคัญที่คุณควรรู้คือ หลักเกณฑ์ในการทำสัญญาจ้าง หน้าที่ของทั้งลูกจ้างและของนายจ้าง การเลิกสัญญาจ้าง

  • สัญญาจ้าง มีการกำหนดคู่สัญญาเป็น 2 ฝ่ายคือ ฝ่ายเจ้าหนี้ ฝ่ายลูกหนี้ กำหนดถึงสิทธิหน้าที่ และการบอกเลิกสัญญา การจ้างลูกจ้างมาทำการงานให้แก่ตนในลักษณะเป็นงานประจำ มีการจ่ายค่าจ้างเป็นรายระยะเวลาที่ชัดเจน และนายจ้างมีอำนาจบังคับบัญชา ซึ้งถือเป็นการจ้างแรงงานที่ไม่จำเป็นต้องทำสัญญา เพียงแต่ทั้ง 2 ฝ่ายได้ตกลงกันก็เกิดสัญญาแล้ว

กฎหมายประกันสังคม

เมื่อคุณจัดตั้งธุรกิจ (ไม่ว่าเป็นรูปแบบบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล) คุณต้องไปขึ้นทะเบียนประกันสังคมนายจ้างและลูกจ้าง ที่สำนักงานประกันสังคมในพื้นที่จังหวัดที่กิจการตั้งอยู่ และมีหน้าที่ในการนำส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคม โดยเงินที่นำส่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ในส่วนของลูกจ้าง(ทุกคน) โดยหักนำส่งในอัตราที่สนง.ประกันสังคมกำหนดไว้ และในส่วนที่สอง คือส่วนที่นายจ้างต้องจ่ายสมทบเป็นจำนวนเท่ากับจำนวนรวมของเงินสมทบในส่วนของลูกจ้าง (ข้อมูลเพิ่มเติมดูที่เว็บกระทรวงแรงงาน www.mol.go.th และเว็บประกันสังคม www.sso.go.th )

 

restaurant-icon

เนื่องจากการเปิดร้านอาหาร หรือร้านขายอาหารเป็นกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพผู้บริโภค หรือก่อให้เกิดความรำคาญแก่ผู้อยู่อาศัยข้างเคียงได้ เพื่อประโยชน์ในการควบคุมหรือกำกับดูแลร้านอาหาร ทางกรุงเทพมหานครจึงได้ออกข้อบัญญิติ เรื่องสถานที่จำหน่ายและสถานที่สะสมอาหาร พ.ศ 2545 โดยอาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญิติการสาธารณสุข พ.ศ 2535

ห้ามมิให้ผู้ใดจัดตั้งร้านอาหาร ในอาคารหรือพื้นที่ใด เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองการแจ้งจากสำนักงานเขต ดังนั้นร้านอาหารที่ตั้ง ณ พื้นที่ใดๆก็ตามในกรุงเทพ ต้องไปแจ้งเรื่องต่อฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขต เพื่อขอรับหลักฐานสำคัญ ดังนี้
1.ร้านอาหารที่มีพื้นที่ไม่เกิน 200 ตารางเมตร ต้องยื่นคำขอเพื่อขอรับ “หนังสือรับรองการแจ้ง” มีค่าธรรมเนียม 1000 บาท
2.ร้านอาหารที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 200 ตารางเมตรขึ้นไป ต้องยื่นคำขอเพื่อขอรับ “ใบอนุญาต” มีค่าธรรมเนียม 3000 บาท

หลักฐานที่ต้องนำมาประกอบ
1.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาทะเบียนบ้าน ของผู้ขอรับใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองการแจ้ง
2.สำเนาทะเบียนบ้านของที่ตั้งร้านอาหาร
3.สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล พร้อมสำเนาบัตรประชาชนของผู้แทนนิติบุคคล
4.หนังสือมอบอำนาจที่ถูกต้องตามกฎหมายพร้อมสำเนาบัตรประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ (กรณีผู้ประกอบการไม่สามารถยื่นคำขอด้วยตนเอง)
5.กรณีการต่อใบอนุญาตต้องแนบวุฒิบัตร
6.แผนที่ร้านอาหาร พอสังเขป
ขั้นตอนการเปิดร้านอาหาร
1.ไปติดต่อที่สำนักงานเขตที่ตั้งของร้านอาหาร ยื่นคำร้องต่อฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล
2.เตรียมเอกสารต่างๆและหลักฐานประกอบให้พร้อม
3.กรอกแบบฟอร์มที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักเขตจัดให้ ดังนี้
– ก ร้านใหม่ = คำขอรับใบอนุญาตหรือหนังสือรับรอง แจังจัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหารหรืสถานที่สะสมอาหาร (แบบ สอ.1)
-ข ร้านเก่า= คำขอต่ออายุใบอนุญาตจัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหารหรือสถานที่สะสมอาหาร (แบบ สอ.5)

กรณีบอกเลิกกิจการ
ต้องยื่นคำขอบอกเลิกการดำเนินกิจการสถานที่จำหน่ายอาหารหรือก สถานที่สะสมอาหาร (แบบ สอ.10)

กรณีโอนกิจการ
ต้องยื่นคำขอโอนการดำเนินกิจการสถานที่จำหน่ายอาหารหรือสถานที่สะสมอาหาร (แบบ สอ.11)

กรณีแก้ไขใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองการแจ้ง
ต้องยื่นคำขอแก้ไขใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองการแจ้ง จัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหารหรือสถานที่สะสมอาหาร (แบบ สอ.12)

4.เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน และตรวจสุขลักษณะของร้านอาหารตามเกณฑ์ด้านสุขลักษณะ สรุปผลการตรวจสอบและเสนอให้ผู้อำนวยการเขตพิจารณาออกใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองการแจ้ง

กรณีหนังสือรับรองการแจ้ง เมื่อเจ้าหน้าที่เขตได้รับแจ้ง ให้ออกใบรับแจ้ง (สอ.2) แก่ผู้ประกอบการเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการประกอบกิจการตามที่แจ้งได้ชั่วคราวในระหว่างเวลาที่จนท.เขตยังไม่ได้ออกหนังสือรับรองการแจ้ง

ถ้าเจ้าหน้าที่เขตตรวจสอบแล้วถุกต้องตามแบบที่กำหนด ให้ออกหนังสือรับรองการแจ้งภายใน 7 วันทำการ นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง

กรณีใบอนุญาต เมื่อจนท.เขตได้รับคำขอรับใบอนุญาตหรือคำขอต่ออายุใบอนุญาต ให้ตรวจสอบความถูกต้องและความสมบูรณ์ของหลักฐาน
ถ้าจนท.เขตตรวจสอบแล้วพบไม่ถูกต้องตามแบบที่กำหนด ให้แจ้งผู้ประกอบการทราบภายใน 15 วันทำการ นับแต่วันที่ได้รับคำขอ
เจ้าหน้าที่เขตต้องออกใบอนุญาตหรือมีหนังสือแจ้งคำสั่งไม่อนุญาตพร้อมด้วยเหตุผลให้ผู้ขออนุญาตทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันได้รับคำขอ ซึ้งมีรายละเอียดถุกต้องหรือครบถ้วนตามที่กำหนดในข้อกำหนดท้องถิ่น
5.เจ้าหน้าที่แจ้งให้ผู้ได้รับใบอนุญาตมารับ พร้อมกับชำระค่าธรรมเนียมภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง หากพ้นกำหนดแล้วไม่มารับใบอนุญาตหรือไม่ชำระค่าธรรมเนียม ให้ยกเลิกการอนุญาตนั้น

เจ้าหน้าที่แจ้งให้ผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งมารับพร้อมกับชำระธรรมเนียมภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง หากพ้นกำหนดแล้วไม่มารับหนังสือรับรองการแจ้งหรือไม่ชำระค่าธรรมเนียม ให้ยกเลิกการอนุญาตนั้น

การชำระค่าธรรมเนียมให้เป็นไปตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องค่าธรรมเนียมสำหรับการดำเนินกิจการตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข พ.ศ 2547

6.ในกรณีที่ใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองการแจ้งสูญหายถูกทำลาย หรือชำรุดในสาระสำคัญ ต้องยื่นคำขอต่อจนท.ที่ฝ่ายสิงแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักเขตนั้นๆ เพื่อขอรับใบแทนใบอนุญาต หรือหนังสือรับรองการแจ้งภายใน 15 วัน นับแต่วันที่สูญหาย ถูกทำลาย หรือชำรุดในสาระสำคัญพร้อมกับเอกสารแจ้งความ

7.ผู้ได้รับใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองการแจ้ง ต้องแสดงโชร์ในร้านอย่างเปิดเผยและเห็นได้ง่าย ตลอดเวลาที่เปิดดำเนินการ

คำเตือน
-หนังสือรับรองการแจ้ง ไม่ต้องยื่นคำขอต่ออายุรายปี แต่ต้องชำระค่าธรรมเนียมทุกปี ก่อนครบรอบปี
-ใบอนุญาต ต้องยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตพร้อมชำระค่าธรรมเนียม รายปีก่อนจะหมดอายุ
-กรณีที่ผู้มายื่นคำขอใบอนุญาตล่าช้า เลยวันสิ้นอายุ เจ้าพนักงานท้องถิ่นจะรับคำขอต่อไว้โดยถือว่าเป็นการค้างชำระค่าธรรมเนียม และจะเรียกเก็บค่าปรับเพิ่มร้อยละ 20

 

นอกจากนี้หากร้านท่านจำหน่ายสุราและบุหรี่ด้วย ก็ต้องไปทำเรื่องกับสำนักงานสรรพสามิต ในเขตพื้นที่ท้องถิ่นของท่านเพื่อ ทำเรื่องขอใบอนุญาตจำหน่ายสุรา ประเภทที่3 และใบอนุญาตจำหน่ายยาสูบ อีกด้วย

หากร้านท่านมีการเปิดเพลงให้ลูกค้าฟัง (เปิดเพลงจากแผ่นหรือสื่อใดๆ) ก็ควรติดต่อบริษัทจัดเก็บลิขสิทธิ์เพลง จ่ายเงินให้ค่าลิขสิทธิ์เพลงด้วย ซึ้งแต่ละค่ายเพลงจะจัดตั้งบริษัทจัดเก็บลิขสิทธิ์ที่แตกต่างกัน (ตรงนี้ต้องขอบอกว่าค่าลิขสิทธ์เพลง ไม่แพง แต่ถ้าไม่จ่ายแล้วถูกจับได้ทีหลัง อันนี้จะจ่ายแพงกว่าอีกเป็นสิบๆเท่า ฉะนั้นจ่ายก่อนดีกว่า หรือไม่ก็เลี่ยงโดยการไปเปิดเพลงจากคลื่น FM แทนซะเลย

และหากร้านอาหารท่านมีบริการห้องคาราโอเกะด้วย ก็ต้องติดต่อจ่ายค่าลิขสิทธิ์เพลงคาราโอเกะ (ไม่เหมือนเพลง Audio ที่เปิดในร้านทั่วๆไป) ซึ้งคิดค่าลิขสิทธิ์เพลงคาราโอเกะเป็นห้องๆ หรือเป็น Harddisk (กรณีเพลงอยู่ในคอมในแต่ละห้อง) ซึ้งจะได้รับสติกเกอร์มาติดที่เครื่องเพื่อแสดงว่าได้จ่ายค่าลิขสิทธิ์แล้ว กรณีถูกตรวจสอบ

 

Credit: คู่มือธุรกิจ SMEs ตอนก่อร่างสร้างธุรกิจ by K SME

-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

รับโปรโมท ประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร ,ดูแลการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจร้านอาหาร
ด้วย Digital Marketing สร้างช่องทางใหม่ๆ เรียกลูกค้าผ่านโลกออนไลน์
-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

 

Tags: , , , ,