Archive for category Social Media Marketing

7 Social Media ที่ร้านอาหารควรรู้จัก

7Socialmediaสำหรับร้านอาหาร

 

ทุกวันนี้คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วที่ร้านอาหารควรต้องมีเครื่องมือ Social Media ไว้สำหรับติดต่อพูดคุยกับลูกค้าของทางร้าน เพราะโลกออนไลน์ได้เข้ามาผูกติดกับชีวิตของเราตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า…จนกระทั้งเข้านอนตอนกลางคืน จนต้องบอกว่าตอนนี้เราไม่ได้เข้าสู่ยุคของดิจิตอล  แต่ดิจิตอลกำลังอยู่รอบตัวเราในทุกๆเรื่อง ฉะนั้นถ้าคุณเป็นเจ้าของร้านอาหาร หรือเป็นผู้ดูแลธุรกิจร้านอาหารยังไงซะก็จำเป็นจะต้องรู้จักเครื่องมือ Social Media เหล่านี้เอาไว้ และเริ่มเรียนรู้ที่จะใช้งานมันเพื่อสื่อสารไปถึงลูกค้าของร้าน ซึ้งคุณจะเปิดใช้ทุกบริการเลย หรือจะเลือกใช้เพียงบางตัว ก็แล้วแต่จะพิจารณาตามสมควร ก่อนอื่นขอเริ่มด้วยตัวเลขทางสถิติที่น่าสนใจกันก่อน

ประเทศไทยมีตัวเลขสถิติที่น่าสนใจด้าน Internet ดังนี้ 

(ข้อมูลล่าสุดจากเว็บ We Are Social เมื่อ Jan2016)

  • ประชากรทั้งหมด 68 ล้านคน
  • มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตกว่า 38 ล้านคน หรือคิดเป็น 56% ของประชากร
  • มีผู้ใช้ Social Media ทั้งหมดอยู่ 38 ล้านคน
  • จำนวนเบอร์มือถือที่ลงทะเบียนประมาณ 82 ล้านเบอร์ (คนไทย20%มีมากกว่า1เบอร์มือถือ)
  • คนไทยใช้อินเตอร์เน็ตผ่านโน็ตบุ๊ค/พีซี 4.45 ชั่วโมงต่อวัน
  • คนไทยใช้อินเตอร์เน็ตผ่านมือถือ 3.53 ชั่วโมงต่อวัน
  • คนไทยใช้ Social Media 2.52 ชั่วโมงต่อวัน
  • แพลตฟอร์มที่คนไทยใช้มากที่สุดคือ Facebook รองลงมาคือ LINE>>Google+>>Instagram>>Twitter>>Pinterest

จากประสบการณ์ของผมในการเป็นที่ปรึกษาร้านอาหาร และแนะนำช่องทางการทำตลาดออนไลน์สำหรับร้านอาหาร ให้มามากกว่า 40 ร้านแล้ว ขอชี้เป้าให้เห็นเลยว่าโซเชียลมีเดียตัวใดบ้าง ที่ร้านควรต้องมี

1. Facebook Page แน่นอนที่สุด ยังไงคนไทยก็ใช้เฟสบุ๊คมากที่สุดในบรรดา Social Media ทุกเจ้าที่มีอยู่ ร้านควรต้องสร้าง Page สำหรับไว้อัพข้อมูลของทางร้าน โปรโมชั่นใหม่ๆ เมนูใหม่ๆ ข่าวสาร กิจกรรม และอื่นๆ  หลายๆร้านได้ใช้ช่องทาง Facebook Fanpage เสมือนเป็น Official Web ของทางร้านไปซะเลยสมัยก่อนคิดว่าต้องมี Website ปัจจุบันหลายร้านใช้ FB Page แทนเว็บไปแล้ว (แต่จริงๆเว็บไซต์ยังมีความสำคัญอยู่นะ ไว้จะมาเขียนเล่าให้ฟังวันหลัง)

 

2.Line@ ไลน์แอท แอปสำหรับ SME ร้านค้าขนาดเล็ก-กลางที่ทาง LINE ได้เปิดให้ใช้งานแอป เสมือนเป็นช่องทางติดต่อสื่อสารโดยตรงถึงลูกค้า เพราะว่า App LINE ถือเป็นแอปแชทอันดับ 1 ของคนไทย เรียกว่าทุกคนที่มีมือถือย่อมต้องมีแอป Line อยู่ในเครื่องแน่นอน การสร้าง Account Line@ สำหรับร้านอาหารจึงเป็นสิ่งที่แนะนำ โดยสมัครใช้งานได้ฟรี แต่อาจมีค่าใช้จ่ายนิดหน่อยในเรื่องชื่อ Premium ID (ปีละ 5.99 $) และหากคุณอยากส่งข้อความ Broadcast ไปให้ลูกค้าที่มากขึ้น ก็อาจมีค่าบริการรายเดือน ตามแต่แพ็คเกจที่จะเลือก  (รายละเอียดตรงนี้ จะมีบทความให้อ่านกันต่อไปในอนาคต)

 

3. Instagram อินสตาแกรม โซเชียลมีเดียมาแรงในรอบ 3-4 ปีหลังๆนี้ เพราะว่าคนเราชอบดูรูปมากกว่าอ่านตัวหนังสือ IG จึงเป็นที่นิยมสำหรับคนไทยค่อนข้างมาก หลายคนสมัคร IG ไว้สำหรับฟอลโล่ดารา นักร้องและเซเลปโดยเฉพาะเลยก็มี (แต่ตัวเองไม่ค่อยได้อัพรูปซะเท่าไรนัก) ช่องทางนี้ สำหรับร้านอาหารแล้ว ก็ถือว่าแนะนำให้มีกันไว้ เพราะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่เข้าถึงผู้คนได้มาก

 

4. Google+ Page กูเกิลพลัสเพจ อันนี้หลายคนอาจสงสัยว่ามันฮิตจริงเหรอ  แต่ขอบอกเลยว่ายังไงร้านอาหารก็ต้องสมัครใช้บริการกูเกิลพลัสเพจ เพราะว่าคนทำร้านอาหารทุกร้านอยากมี หมุดปักแผนที่ร้านโชร์ใน GoogleMap กันอยู่แล้ว ทางกูเกิลก็เลยพ่วงบริการโซเชียลมีเดียมาให้ใช้งานด้วยเลย ซึ้งจริงๆแล้วดูเหมือนไม่ค่อยฮิตนะคับ  แต่ความลับอย่างนึงก็คือ หากคุณอัพภาพ อัพเรื่องราวต่างๆผ่าน Google+ Page บ่อยๆ มันจะทำให้ผลการค้นหาร้านอาหารของคุณดีขึ้นๆๆ อย่างที่คุณไม่เคยทราบมาก่อน

 

5.Twitter ทวิตเตอร์ ส่งข้อความสั้น 140 ตัวอักษรนี้ นิยมมากๆในกลุ่มวัยรุ่นช่วงม.ปลาย-มหาวิทยาลัย-วัยทำงานตอนต้น บางคนติด twitter เสียยิ่งกว่า FB หรือ IG ซะอีก ถ้าร้านคุณมีกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในวัยนี้ โซเชียลมีเดียตัวนี้ก็ถือว่าน่าสนใจมากๆเช่นกัน (ยังมีทริคและการตลาดผ่าน Twitter เจ๋งๆอีกหลายอัน วันหลังจะเขียนเป็นบทความแชร์ให้อ่านกันอีกรอบ)

 

6. Youtube Channel คุณรู้ไหมว่าวัยรุ่นสมัยใหม่ดู Youtube บ่อยกว่าดูทีวีไปแล้ว เพราะว่าอยากดูอะไร ก็เสิร์ชหาแล้วดูได้เลย ไม่ต้องมารอดูตามตารางออกอากาศ ชอบช่องไหนก็กดสับตะไคร้ ให้มันแจ้งเตือนเมื่อมีวีดีโอตอนใหม่มาได้เลย  ช่องทางยูทูปนี้ต้องเรียกว่า ทำไว้ไม่เสียหายอะไร วันไหนว่างๆคุณอาจเอามือถือตัวเองมาทำคลิปตัดต่อเอง เป็นคลิปแนะนำร้านแบบคร่าวๆ แนะนำวิธีการปิ้งอาหารแต่ละชนิดยังไงให้อร่อย รีวิวน้ำจิ้มของทางร้านว่าอะไรใช้กินกับอะไร หรือจะทำคลิปเผยสูตรเมนูเด็ดของร้านให้ลูกค้าดูก็ย่อมได้ ข้อดีอย่างนึงก็คือ หากคุณรู้จักการทำ SEO ชื่อไตเติ้ลคลิปสักนิด มันจะช่วยทำให้ร้านคุณเสิร์ชเจอได้อยู่ในอันดับที่ดีบน Google ในคีย์เวิร์ดที่คุณต้องการได้ด้วย (เพราะ Youtube มันเป็นเว็บในเครือ Google ไงละยังไงเขาก็ต้องดันผลลัพธ์การค้นหาให้เจอก่อนเว็บอื่นๆอยู่แล้วละ)

 

7. Pinterest เว็บปักพินเรื่องราวที่ชอบ ที่ต่างประเทศฮิตกันมากๆถึงกับสามารถขายของออนไลน์เป็นเรื่องเป็นราวได้เลย แต่ในเมืองไทยยังนิยม Pin เนื้อหาในแนวรูปภาพที่สะสมไว้เป็นคอลเลคชั่น สำหรับร้านอาหาร หลายๆร้านเริ่มหันมาสนใจช่องทางนี้แล้ว โดย Pin รูปอาหารเมนูแนะนำ หรือแบบคอลเลคชั่น เมนูอาหาร บรรยากาศร้าน งานจัดเลี้ยงเอาไว้ ให้ลูกค้ามาดูได้ภายหลัง Pinterest ยังช่วยในเรื่องการค้นหา SEO บนGoogle อีกด้วย ถ้ารู้วิธีการตั้งชื่อ Title ให้ถูกหลัก ภาพของร้านคุณก็อาจจะไปอยู่หน้าแรกในคีย์เวิร์ดที่ต้องการได้

 

 

Tags: , ,

วิธีแก้ไขลิงค์ URL Facebook แฟนเพจให้เป็นชื่อที่ต้องการ

ปัญหานึงที่เจอบ่อยๆ ของเจ้าของ Facebook Fanpage เมื่อสร้างเพจแล้ว แต่ชื่อ URL ของเพจเรานั้น มันยาว ยีดเยื้อ และไม่เหมาะสำหรับเอาไปแชร์ในเว็บอื่นๆ

คือโดยปกติ เวลาเราสร้าง Fanpage เสร็จแล้ว  เราจะได้ลิงค์ URL เป็นแบบในกรอบสีแดงๆแบบนี้ ก็คือเป็น facebook.com/ชื่อเพจตามที่เราตั้งชื่อไว้+ตัวเลขยืดยาวอีกหนึ่งชุด

ปัญหาคือ เวลาเราจะเอาลิงค์ FB เพจเราไปแปะในที่อื่นๆ หรือบอกเพื่อนให้มากดไลท์ บอกลูกค้าให้มากดไลท์ หรือแม้กระทั้งจะเอาไปพิมพ์ใส่ลงนามบัตร หรือสื่อโฆษณาอื่นๆ มันก็ดูไม่ดีเลยใช่มะ

เปลี่ยนลิงค์แฟนเพจทำอย่างไร

วันนี้เลยขอมาอธิบาย วิธีการเปลี่ยน URL ลิงค์ของแฟนเพจเราให้เป็นคำสั้นๆ กระชับ จำง่าย

ขั้นแรกคือ ให้คนที่เป็นแอดมิน ล็อกอินเข้าเฟสบุ๊คของตัวเอง แล้วเปิดหน้าต่างใหม่ พิมพ์ URL ตามด้านล่างนี้

www.facebook.com/username

วิธีเปลี่ยนURL เฟสบุ๊คตามต้องการ

จะได้หน้าตาประมาณนี้ออกมา

ในช่อง Page: จะมี Dropdown  ให้เลือกว่า เราจะเปลี่ยน Username ของเพจไหน (กรณีเป็นแอดมินหลายเพจ)

วิธีเปลี่ยนชื่อลิงค์แฟนเพจFB

 

หลังจากนั้น ให้เรากรอกชื่อ Username ที่เราต้องการ โดยต้องเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษเท่านั้น หรือตัวเลข0-9 โดยไม่สามารถใส่อักขระหรือสัญลักษณ์พิเศษใดๆได้

ตรงนี้ อยากให้ลองตั้งใจ คิดคำที่ต้องการไว้ในใจก่อน คิดให้ดีๆ เป็นชื่อสั้นๆของแบรนด์ที่ไม่ยาวเกินไป และจดจำได้ง่าย
ตั้งชื่อแฟนเพจใหม่ให้สั้นลง

แล้วกดที่ปุ่ม Check Availability  เช็คว่าคำๆนั้นที่เราใส่ไป สามารถใช้ได้หรือไม่ ถ้ายังเป็น Username ที่ยังว่างอยู่ ทางระบบเฟสบุ๊คก็จะแจ้งว่า ชื่อนี้ว่างอยู่นะ สามารถใช้ได้

โดยมีข้อเตือนใจ ให้รู้ไว้ด้วยว่า

  • หลังจากตั้งชื่อเสร็จแล้ว คุณสามารถเปลี่ยนใจ มาแก้ไข Username ได้อีกเพียงแค่ 1 ครั้งเท่านั้น
  • คุณไม่สามารถโอนย้ายความเป็นเจ้าของ username นี้ไปให้กับผู้อื่นได้
  • คุณไม่สามารถละเมิดชื่อยี่ห้อทางการค้าของบุคคลอื่นได้
  • คุณไม่สามารถสร้างเพจเพื่อจองชื่อสวยๆ เพื่อขายต่อในอนาคตได้ (เหมือนพวกจดโดเมนเว็บไซต์ชื่อสั้นๆจำง่ายเอามาขายต่อภายหลัง)

เปลี่ยนชื่อURL-facebookใหม่

เมื่อมั่นใจจริงๆแล้วว่า จะใช้ชื่อ Username นี้จริงๆแล้วนะ ก็กดปุ่ม Confirm ได้เลย
FB-change-URL6

แค่นี้ก็เสร็จ เรียบร้อยแล้ว ได้ชื่อลิงค์เฟสบุ๊คของแบรนด์แบบสั้นๆ เหมาะสำหรับเอาไปแชร์ต่อ เอาไปพิมพ์ลงสื่อต่างๆได้เลย

Tags: ,

ร้านอาหารควรทำอย่างไรเมื่อเกิดข้อร้องเรียนจากลูกค้าในโลกออนไลน์

พอดีไปเห็นแฟนเพจของ Positioning Mag แม็กกาซีนการตลาดชื่อดังโพสรูปอธิบายวิธีการรับมือดราม่าบนโลกออนไลน์ จากเว็บพันทิป เห็นว่ามีประโยชน์ต่อเจ้าของร้านอาหารทั้งหลาย เลยขออนุญาตเอามาแชร์ต่อครับ

Drama

ปัจจุบันนี้ต้องยอมรับว่า เสียงผู้บริโภคนั้นดังกว่าแต่ก่อนมากครับ หากไม่พอใจบริการหรืออาหารของร้านใดๆ เขาสามารถมาบ่นหรือมาป่าวประกาศ บนโลกออนไลน์ได้อย่างง่ายดายมาก ทั้งบน Social Network หรือเว็บบอร์ดใหญ่ๆดังเช่นพันทิป ดังนั้นเจ้าของร้านต้องเตรียมรับมือให้ดีครับ

ทุกวันนี้การแชร์ต่อบนโลกอินเตอร์เน็ตมันง่ายมากจริงๆ แค่กดเม้าท์ไม่กี่คลิกก็แชร์-ส่งต่อเรื่องราวดราม่าไปสู่คนอื่นได้อย่างง่ายและรวดเร็วมาก เจ้าของร้านอาหารทุกท่านจงพีงระวังไว้นะครับ ถ้าหากลูกค้าเกิดการไม่พอใจในบริการ หรืออาหารที่ได้รับ จากร้านของท่าน แล้วท่านไม่สามารถจัดการปัญหานั้นได้อย่างรวดเร็ว และจบอย่างสวยงามภายในวันที่เกิดเรื่องขึ้นได้ อาจจะมีกระทู้ร้องเรียน กระทู้ก่อดราม่าบนเว็บบอร์ดดังๆ เช่นพันทิป ก็ได้ ซึ้งวิธีรับมือตามรูปข้างบนนี้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องรู้ไว้เลย แบรนด์จำเป็นจะต้องออกมาแสดงตัวอย่างรวดเร็วและรับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น แล้วหาวิธีแก้ไข หรือตอบแทนต่อสิ่งที่ลูกค้าไม่พอใจ  อย่างกรณีเว็บพันทิป หากร้านอาหารของท่านถูกลูกค้าที่ไม่พอใจ ตั้งกระทู้กล่าวถึงบ่อยครั้ง ข้อแนะนำของผมคือ ร้านควรสมัครสมาชิก Login ในนามของร้านไว้เลย แล้วเมือไรมีกระทู้ร้องเรียนขึ้น ก็รีบเข้าไปตอบกระทู้อย่างเร็วไว อย่าปล่อยให้ไทยมุงมาเยอะ หรืออย่าปล่อยทิ้งไว้นาน (อาการไทยมุง คือหลังการตั้งกระทู้พร้อมแสดงความไม่พอใจของเจ้าของกระทู้แล้ว ยังไม่มีการตอบสนองจากร้านค้า คนอื่นๆก็จะมารุมด่า รุมบ่น เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ ก่อดราม่า ทวีความรุนแรงมากขึ้น) ถ้าแต่ร้านรู้เรื่องเร็ว อาจช่วยตัดไฟแต่ต้นลมไว้ได้ และเรืองจะไม่บานปลาย

 

 

-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

รับโปรโมท ประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร ,ดูแลการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจร้านอาหาร
ด้วย Digital Marketing สร้างช่องทางใหม่ๆ เรียกลูกค้าผ่านออนไลน์
-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

Tags: ,

ผลสำรวจบทความรีวิวร้านอาหารออนไลน์มีผลต่อการตัดสินใจมากถึง 72%

ในยุคก่อนที่จะมีอินเตอร์เน็ต การซื้อสินค้าและบริการแต่ละครั้งของผู้บริโภคมักได้รับอิทธิพลจากข้อมูลในสื่อดั่งเดิม เช่นหนังสือพิมพ์หรือคำแนะนำแบบปากต่อปากเป็นหลัก  แต่พอมาในยุคหลังที่อินเทอร์เน็ตเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน อิทธิพลจากสื่อในรูปแบบเดิมก็ถูกแทนที่ด้วยข้อมูลบนโลกออนไลน์ โดยผู้บริโภคส่วนใหญ่เริ่มหันมาใช้วิธีการหาเสิร์ชข้อมูลสินค้าหรือบทความรีวิวออนไลน์มากขึ้น เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจก่อนการซื้อสินค้าหรือใช้บริการในร้านอาหาร

rating-star

เว็บไซต์ Bluepolointeractive.com ในอเมริกาได้สอบถามจากกลุ่มตัวอย่างที่มักเสิร์ชหาข้อมูล (รีวิว) บนโลกออนไลน์ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าเป็นประจำ พบว่าผู้บริโภคกว่า 72% เชื่อว่าข้อมูลที่เสิร์ชบนอินเทอร์เน็ตมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เปรียบเสมือนเป็นคำแนะนำแบบส่วนตัวเลยทีเดียว

การสำรวจพบว่าข้อมูลที่ผู้บริโภคได้มาส่วนใหญ่เป็นการค้นหาผ่านเสิร์ชเอนจิ้น รวมไปถึงการค้นหาผ่านเว็บไซต์ที่มีการรวบรวมรีวิวและคำแนะนำต่างๆ ทั้งในเรื่องร้านอาหาร ที่พัก หรือแม้แต่สถานที่ท่องเที่ยว เช่น Google, Yelp และ Citysearch

ผลการรีวิวในเว็บไซต์เหล่านี้นับว่ามีอิทธิพลและมีผลกระทบโดยตรงต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากตัวอย่างของร้านอาหารที่ถูกรีวิวบนเว็บไซต์ Yelp (เว็บรีวิวร้านอาหารชื่อดังในอเมริกา) ในปี 2012 ที่ผ่านมา โดยร้านอาหารที่มีผลการรีวิวอยู่ในเกณฑ์ดีจะได้ผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคเป็นจำนวนมากจนมียอดจองเต็มทุกโต๊ะ แต่ในทางกลับกันร้านอาหารที่ผลการรีวิวอยู่ในเชิงลบ ก็ได้รับผลกระทบจนเหลือยอดจองโต๊ะเพียงแค่ 1 ใน 3 เท่านั้น

นอกจากนี้ในเว็บไซต์ Yelp ที่ใช้จำนวนดาวเป็นตัววัดความนิยมของร้านอาหารก็พบว่า การที่ร้านอาหารบางร้านมีจำนวนดาวเพิ่มขึ้นเพียงแค่ครึ่งดวง ก็ส่งผลถึงจำนวนลูกค้าที่จะเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิมถึง 30-49% ทีเดียว

สรุปแล้ว อิทธิพลของการรีวิวนั้นนอกจากผลของการรีวิวจะมีผลโดยตรงกับการทำธุรกิจ ยังเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการทำธุรกิจด้วย โดยสิ่งสำคัญที่แบรนด์หรือร้านค้าต่างๆไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ การรักษาคุณภาพในการทำธุรกิจให้อยู่ในเกณฑ์ดีอยู่เสมอ รวมไปถึงมีการจัดการด้านภาพลักษณ์และชื่อเสียงที่ดี และยังควรมองหาวิธีเพื่อรับมือกับฟีดแบคในด้านลบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย

คำถามสำหรับคุณในฐานะเจ้าของธุรกิจก็คือ

– คุณเคยเฝ้าระวังและติดตามรีวิวและคอมเม้นต์จากผู้บริโภค ที่ได้ไปโพสต์ไว้ตามเว็บรีวิวต่างๆไว้หรือไม่?

– คุณมีวิธีการแจ้งเตือนหรือวิธีรับรู้เมื่อมีคอมเม้นต์ในแง่ลบ (Negative Review) แล้วรึยัง?

– คุณได้เตรียมวิธีการรับมือกับสิ่งเหล่านี้ไว้บ้างแล้วรึยัง?

 

infographic-review-online

 

Credit: thumbsup.in.th  ,  visual.ly

-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

รับโปรโมท ประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร ,ดูแลการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจร้านอาหาร
ด้วย Digital Marketing สร้างช่องทางใหม่ๆ เรียกลูกค้าผ่านโลกออนไลน์
-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

Tags: , , ,

หมดยุคบัตรสะสมแต้ม สมัยนี้ต้อง App สะสมแต้มออนไลน์บนมือถือ

เชื่อว่าหลายๆร้านอาหาร ร้านกาแฟ จะคุ้นเคยกับการเล่นโปรโมชั่นการตลาดแนวสะสมแต้มบนบัตรสะสมแต้มแบบกระดาษ เมื่อลูกค้าซื้ออาหาร/เครื่องดื่ม ตามข้อกำหนด เช่น สั่งกาแฟ 1 แก้ว ได้รับแต้ม 1 ดวง ครบ 10 ดวงแล้วได้รับฟรี 1 แก้ว หรือ ทานอาหารครบ 300 บาทได้รับแสตมป์ 1 ดวง ครบ 10 ดวงได้รับคูปองแทนเงิน 300 บาท อะไรประมาณนี้ ซึ้งถือเป็นรูปแบบการทำการตลาดแนว Loyalty Program ยุคดั้งเดิมใช้มาเนิ่นนานแล้วจริงๆ

แต่พอนานวันเข้า ความสะดวกก็ไม่เหมือนเดิม มีปัญหาและยุ่งยากมากขึ้นหลายๆอย่าง เช่น

  • ลูกค้าต้องพกบัตรสะสมแต้มจากร้านกาแฟ ร้านอาหาร หลากหลายใบเกินความจำเป็น
  • บางทีมาทานอาหารที่ร้านแล้ว แต่ดันลืมพกบัตรติดมาด้วย
  • บัตรสะสมแต้มหาย เปียกน้ำ ฉีกขาด
  • สะสมแต้มเกือบครบแล้ว แต่ลืมดูวันหมดอายุของบัตร

แล้วจะทำอย่างไรดีละ???

app loyalty program

ปัญหาเหล่านี้ เกิดขึ้นกับลูกค้าหลายๆคน จนทำให้มีผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นบนมือถือสมาร์ทโฟน หลายๆเจ้าพัฒนา App แนวนี้ขึ้นมาให้พวกเราได้ใช้กัน

วันนี้ผมขอแนะนำ 4 App เด็ดบน Smartphone ที่ช่วยร้านอาหารไม่ต้องมาวุ่นวายกับปัญหาเดิมๆอีกต่อไป  

1. App Got it (ก็อทอิท)

คำนิยามบนเฟซบุ๊คของ App Got it อธิบายไว้ว่า

Got It ได้รวบรวมบัตรสะสมแต้มของร้านค้าต่างๆมาไว้ในที่เดียว ช่วยให้คุณไม่ต้องปวดหัวกับการพกบัตรไว้เต็มกระเป๋า ซึ่งบางทีก็ทำหายหรือลืมไว้ที่บ้าน แค่ใช้แอพ Got It สแกนป้าย QR ที่พนักงานยื่นให้เพียงเท่านี้คุณก็ได้แต้มสะสมไว้ในมือถือ แล้วคุณจะไม่พลาดของรางวัลอีกต่อไป

App Got it เป็นทีมนักพัฒนาที่มาจากการประกวดการแข่งขันจากงาน AIS Startup Weekend 2011 ที่รวมตัวกันพัฒนาจากแนวคิดที่ไม่อยากพกบัตรสะสมแต้มมากมายในกระเป๋าสตางค์ จนตอนนี้เปิดตัวได้ 1 ปีกว่าๆ มี App ให้ดาวโหลดทั้งบน iPhone และ Android Phone และมีร้านค้าเข้าร่วมเป็นพันธมิตรมากมาย

App Got it

 

Got-it_au bon pain

 

ซึ้งรูปแบบการใช้งานก็สะดวกสบาย เพียงเมื่อเข้าไปที่ร้านค้าที่ร่วมรายการ เมื่อสั่งอาหาร/สั่งเครื่องดื่มครบตามเงื่อนไข ก็แจ้งกับแคชเชียร์ว่าจะใช้ Got it App ในการสะสมแต้ม พนักงานจะเอาแผ่นป้าย QR-code มาให้สแกนผ่านตัวแอพ แล้วสะสมคะแนนบนแอพได้เลย พอครบตามกำหนดแล้ว ก็แจ้งพนักงานว่าจะ Redeem รับรางวัล พนักงานก็จะมีแผ่นป้าย QR-code อีกแผ่นมาให้สแกน เพื่อปลดล็อกรางวัลได้เลยทันที

สนใจรายละเอียดลองเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ http://www.facebook.com/gotitapp

 

2. App Tamp (แต๊มป์)

คำนิยามบนเฟซบุ๊คของ Tamp อธิบายไว้ว่า

แต๊มป์เป็นบัตรสะสมแต้มในรูปแบบดิจิตัล บนโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของคุณ รับแต๊มป์ทุกครั้งที่ใช้บริการจากร้านโปรด ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ ร้านขนม ร้านอาหาร หรือบริการอื่นๆ ฯลฯ ที่ร่วมรายการ เมื่อสะสมแต๊มป์ครบ แลกรางวัลและสิทธิ์พิเศษจากร้านโปรดของคุณ เมื่อใช้แต๊มป์คุณจะไม่ต้องกังวลว่าจะลืมบัตรสะสมแต้มอีกต่อไป เพราะทุกบัตรที่คุณต้องการจะอยู่ในสมาร์ทโฟนของคุณ

สำหรับ App Tamp หรือออกเสียงแบบไทยๆว่า “แต๊มป์” นั้นก็เป็นแอพสะสมแต้มออนไลน์อีกหนึ่งแอพที่เป็นที่นิยม มีแอพทั้ง 2 ค่ายแพลตฟอร์ม iOS and Android OS ไว้ให้บริการในขณะนี้

App Tamp

 

Promotion App Tamp

 

หลักการทำงานจะคล้ายๆกับ Got it คือใช้การสแกน QRcode ในการสะสมคะแนน

สนใจรายละเอียดลองเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ http://www.facebook.com/tampme

 

3. App Stamp (แอพ สแตมป์)

คำนิยามบนเฟซบุ๊คของ Tamp อธิบายไว้ว่า

 Stamp คือ app สะสมแต้มบนมือถือ ไม่ต้องพกบัตร Use your smartphone to collect stamps and earn rewards at your favorite businesses.

สำหรับแอพ Stamp นี้จะมีลูกเล่นมากกว่าแอพอื่นๆ ที่วิธีการสะสมแต้มออนไลน์ จะไม่ได้ใช้การให้มือถือของลูกค้าสแกน QRcode เหมือนเจ้าอื่นๆ แต่ทางผู้พัฒนาได้ประดิษฐ์เครื่องมือตัวสแตมป์อิเล็กทรอนิกขึ้นมาพิเศษ ที่รูปร่างเหมือนตรายางที่เราเคยเห็นๆทั่วไป แต่สามารถใช้สแตมป์สะสมคะแนนได้บนสมาร์ทโฟน

app stamp

 

app stamp promotion

สำหรับ App Stamp นี้ตอนนี้มีให้ดาวโหลดได้แล้วบน App Store ของฝั่ง Apple ส่วนทางด้านระบบ Android คาดว่าน่าจะมาเร็วๆนี้

สนใจรายละเอียดลองเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ http://www.facebook.com/getmystamp

 

4. BoxBox.Me

สำหรับ BoxBox.me นั้นไม่ได้จำกัดว่าเป็น App บนสมาร์ทโฟนเท่านั้น ถ้าลูกค้าของร้านเป็นกลุ่มคนใช้มือถือฟีเจอร์โฟนทั่วๆไปก็สามารถสะสมคะแนนกับทาง บ็อกบ็อกมี ได้เช่นกันเพียงบอกเบอร์โทรมือถือ ให้กับพนักงานก็สามารถสะสมแต้มออนไลน์ได้ทันที

app boxboxme

 

สนใจรายละเอียดลองเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ http://www.boxbox.me/

 

ถือว่าเป็นรูปแบบใหม่ของการเล่นโปรโมชั่นสะสมแต้มที่่น่าสนใจมากๆสำหรับธุรกิจร้านอาหาร ร้านกาแฟ ยุคสมาร์ทโฟนครองเมือง สนใจบริการของเจ้าไหนลองคลิกไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมกันเองนะครับ เพราะบางเจ้าก็มีบริการตัวทดลองใช้ฟรีให้ทดสอบกันก่อนด้วย

-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

รับโปรโมท ประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร ,ดูแลการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจร้านอาหาร
ด้วย Digital Marketing สร้างช่องทางใหม่ๆ เรียกลูกค้าผ่านโลกออนไลน์
-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

Tags: , , , , , , , , ,