Posts Tagged ร้านอาหาร

เจ้าของร้านโปรดทราบ!! ค่าถ่ายทอดฟุตบอลอังกฤษจาก CTH สำหรับร้านอาหาร

เอาข่าวนี้มาแจ้งกับเจ้าของร้านอาหารทุกท่านทราบครับ พอดีเจอกระทู้ในพันทิปเรื่องค่าถ่ายทอดสดบอลพรีเมียร์ลึก อังกฤษ สำหรับร้านอาหาร ร้านเหล้า ผับ บาร์ ที่มีการเปิดฟุตบอลให้ลูกค้ามาดูที่ร้าน

ตอนนี้ทาง CTH ซึ้งได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 3 ฤดูกาล ตั้งแต่ 2013 – 2015 ฟุตบอลที่คนไทยเราติดตามกันมากที่สุด หากร้านอาหารของท่านมีการเปิดถ่ายทอดสดฟุตบอลให้ลูกค้ามานั่งดูในร้าน ลองพิจารณาค่าเผยแพร่ด้วยนะครับ ซึ้งคิดราคาตามขนาดความกว้างของจอทีวี ตามนี้

 

Update 30/7/56 ทางเฟสบุ๊คของ CTH แจ้งราคาใหม่สำหรับร้านอาหาร มาแล้วนะครับ ปรับราคาลงอีกนิดจากราคาที่ออกมาครั้งแรก (ดูราคาช่วงแรก ได้จากภาพล่าง)

CTH_Premier_update300756

 

(ภาพด้านล่างนี้เป็นราคาเก่า นะครับที่ออกมาช่วงแรก ราคาจะสูงกว่าโปรใหม่ และยังไม่มีราคาเหมารายปี)

 

CTH_restaurant

 

ลองพิจารณาดูครับ ว่าราคานี้คุ้มทุนสำหรับร้านของท่านไหม เพราะบางกระแสก็ว่าแพงเกินไป(สำหรับร้านเล็กๆ ร้านตจว.) แต่สำหรับร้านกลางๆ-ใหญ่ หรือร้านสไตล์ผับ-บาร์ ยังไงก็ต้องมีบอลอังกฤษให้ลูกค้าดูอยู่แล้ว เพราะถือเป็นจุดขายหนึ่งเลยที่ทำให้ลูกค้าเดินเข้าร้าน

ถ้าร้านอาหารของท่านเปิดช่วงดึกๆ และใช้การดึงดูดลูกค้าเข้าร้านด้วยฟุตบอลอังกฤษก็ถือว่าต้องลงทุนจ่ายในส่วนนี้ แต่ถ้าเป็นร้านเล็กๆหน่อย ก็ลองคำนวณความคุ้มทุนละกันครับ ว่ารับไหวไหมสำหรับราคารายเดือนเท่านี้

สุดท้ายฝากเตือนด้วยว่าอย่าเอาแพ็คเกจที่ใช้ตามบ้านเรือน ไปใช้ในร้านอาหารนะ ถ้าถูกจับได้ ค่าปรับจะไม่คุ้มเสีย

 

Update เพิ่มเติม มีเคสร้านอาหารถูกจับ เรียกปรับ2แสน เพราะไม่รู้ ดันเอาแพ็คเกจ CTH แบบดูในครอบครัว ไปเปิดให้ลูกค้าในร้านอาหารดู แล้วโดนเจ้าหน้าที่จับ อ่านรายละเอียดได้ที่กระทู้พันทิป http://pantip.com/topic/33371813

เน้นย้ำ

เพื่อความสบายใจของท่านเจ้าของร้าน แนะนำว่าควรติดต่อไปที่ CTH โดยตรงโทร 1619 เพื่อสอบถามรายละเอียดสำหรับแพ็คเกจสำหรับร้านอาหาร ผับบาร์และสถานบริการ ดีกว่านะครับ  

-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

รับโปรโมท ประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร ,ดูแลการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจร้านอาหาร
ด้วย Digital Marketing สร้างช่องทางใหม่ๆ เรียกลูกค้าผ่านโลกออนไลน์
-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

 

 

Tags: , , , , , , , ,

อยากเปิดร้านอาหารใหม่ ต้องทำอย่างไรบ้าง

ธุรกิจร้านอาหารถือว่าเป็นธุรกิจฮอตฮิตที่ใครๆก็อยากทำ เพราะอาหารการกิน ถือเป็นปัจจัยสี่ในการดำรงชีวิตประจำวัน ยังไงซะคนเราก็ต้องทานอาหารวันละ 3 มื้อ ธุรกิจร้านอาหารในเมืองไทยเราจึงเป็นธุรกิจที่เฟื่องฟูมาก

Market shop.

ที่นี้เรามาดูว่าหากคิดจะเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเองสักร้านนึง เราต้องทำอะไรบ้าง

1.การจดทะเบียนพาณิชย์หรือทะเบียนนิติบุคคล ซึ้งแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะใหญ่คือ เมื่อจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจแล้ว จะมีสถานะเป็นบุคคลธรรมดาหรือเป็นนิติบุคคล

ลักษณะของธุรกิจที่จดทะเบียนเป็นบุคคลธรรมดา

  • เป็นการไปจดทะเบียนเพื่อแจ้งให้รู้ว่าคุณได้เริ่มต้นประกอบกิจการอย่างถูกต้องและเปิดเผย มีหลักแหล่งและสถานที่ตั้งของกิจการชัดเจน มีชื่อปรากฎอยุ่ในระบบการค้าของประเทศอย่างถูกต้อง
  • เรื่องภาระตามกฎหมาย การทำนิติกรรมสัญญา การชำะภาษีเงินได้ ยังคงเป็นไปในนามของตัวคุณซึ้งเป็นเจ้าของกิจการ
  • การไปจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจแบบนี้เราเรียกว่า จดทะเบียนพาณิชย์ หรือที่คุ้ยเคยกันว่าทะเบียนการค้า
  • ขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่เกินชั่วโมงกับค่าธรรมเนียมเพียง 50 บาท ถ้าอยู่ต่างจังหวัดก็ไปยื่นจดทะเบียนพาณิชย์ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดของจังหวัดที่ตั้งกิจการ

ลักษณะของธุรกิจที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล

  • เมื่อจัดตั้งกิจการแล้วในทางกฎหมายถือว่าตัวธุรกิจนั้นๆ แยกออกโดยเด็ดขาดกับความเป็นบุคคลธรรมดาของเจ้าของกิจการ การจะทำการใดๆ เป็นไปในนามกิจการทั้งหมด เหมือนว่ากิจการนี้เป็นอีกหนึ่งบุคคลที่เกิดขึ้นมาตามกฎหมาย
  • ประเภทของการจัดตั้งธุรกิจใหม่ที่เป็นนิติบุคคล โดยส่วนใหญ่มี 2 ประเภทคือ บริษัทจำกัด และ ห้างหุ้นส่วนจำกัด
  • สถานที่ที่จะไปยื่นจดทะเบียนบริษัทจำกัดและห้างหุ้นส่วนจำกัด ถ้าในเขตกทม. ก็ไปยื่นจดได้ที่สำนักงานบริการทะเบียนธุรกิจ หรือที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าถนนนนทบุรี อ.เมือง จ.นนทบุรี ส่วนในต่างจังหวัด ติดต่อที่สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัด ซึ้งมีอยู่ทุกจังหวัด ดูข้อมูลเพิ่มเติ่มที่เว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th

 

กฎหมายควรรู้สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร

ถือเป็นเรื่องปวดหัวเล็กๆ แต่ก็ต้องรู้ไว้สักหน่อยถือข้อกฎหมายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่จะเปิด

ภาษีอากรสำหรับธุรกิจ SME

  • ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา  กิจการร้านค้าที่จดทะเบียนเป็นทะเบียนพาณิชย์ ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด 94 ในครึ่งปีแรก และยื่นแบบ ภ.ง.ด 90 อีกครั้งในครึ่งปีหลัง
  • ภาษีเงินได้นิติบุคคล ธุรกิจที่จะทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดและบริษัทจำกัด ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด 51 ในครึ่งปีแรกเพื่อประมาณการรายได้ จากนั้นเมื่อสิ้นปีจะยื่นแบบ ภ.ง.ด 52 พร้อมส่งงบดุลและมีการตรวจสอบบัญชีด้วย
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม ถ้าเป็นทะเบียนพาณิชที่มีรายได้ทั้งปีไม่ถึง 1,800,000 บาทต่อปี ไม่ต้องจดภาษีมูลค่าเพิ่มก็ได้ แต่ถ้ามีรายได้เกิน หรือเป็นธุรกิจที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล (ห้างหุ้นส่วนจำกัดและบริษัทจำกัด) ทุกรายต้องจดภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยต้องยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แบบ ภ.พ. 01) เพื่อจะสามารถคำนวณภาษีที่ต้องเสียจากภาษีขายหักด้วยภาษีซื้อ

กฎหมายแรงงาน

ถือเป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่ผู้ประกอบการ ต้องทำความเข้าใจ ซึ้งกฎหมายที่ควรให้ความสนใจคือ

กฎหมายเกี่ยวกับการจ้างแรงงาน

มีประเด็นสำคัญที่คุณควรรู้คือ หลักเกณฑ์ในการทำสัญญาจ้าง หน้าที่ของทั้งลูกจ้างและของนายจ้าง การเลิกสัญญาจ้าง

  • สัญญาจ้าง มีการกำหนดคู่สัญญาเป็น 2 ฝ่ายคือ ฝ่ายเจ้าหนี้ ฝ่ายลูกหนี้ กำหนดถึงสิทธิหน้าที่ และการบอกเลิกสัญญา การจ้างลูกจ้างมาทำการงานให้แก่ตนในลักษณะเป็นงานประจำ มีการจ่ายค่าจ้างเป็นรายระยะเวลาที่ชัดเจน และนายจ้างมีอำนาจบังคับบัญชา ซึ้งถือเป็นการจ้างแรงงานที่ไม่จำเป็นต้องทำสัญญา เพียงแต่ทั้ง 2 ฝ่ายได้ตกลงกันก็เกิดสัญญาแล้ว

กฎหมายประกันสังคม

เมื่อคุณจัดตั้งธุรกิจ (ไม่ว่าเป็นรูปแบบบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล) คุณต้องไปขึ้นทะเบียนประกันสังคมนายจ้างและลูกจ้าง ที่สำนักงานประกันสังคมในพื้นที่จังหวัดที่กิจการตั้งอยู่ และมีหน้าที่ในการนำส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคม โดยเงินที่นำส่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ในส่วนของลูกจ้าง(ทุกคน) โดยหักนำส่งในอัตราที่สนง.ประกันสังคมกำหนดไว้ และในส่วนที่สอง คือส่วนที่นายจ้างต้องจ่ายสมทบเป็นจำนวนเท่ากับจำนวนรวมของเงินสมทบในส่วนของลูกจ้าง (ข้อมูลเพิ่มเติมดูที่เว็บกระทรวงแรงงาน www.mol.go.th และเว็บประกันสังคม www.sso.go.th )

 

restaurant-icon

เนื่องจากการเปิดร้านอาหาร หรือร้านขายอาหารเป็นกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพผู้บริโภค หรือก่อให้เกิดความรำคาญแก่ผู้อยู่อาศัยข้างเคียงได้ เพื่อประโยชน์ในการควบคุมหรือกำกับดูแลร้านอาหาร ทางกรุงเทพมหานครจึงได้ออกข้อบัญญิติ เรื่องสถานที่จำหน่ายและสถานที่สะสมอาหาร พ.ศ 2545 โดยอาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญิติการสาธารณสุข พ.ศ 2535

ห้ามมิให้ผู้ใดจัดตั้งร้านอาหาร ในอาคารหรือพื้นที่ใด เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองการแจ้งจากสำนักงานเขต ดังนั้นร้านอาหารที่ตั้ง ณ พื้นที่ใดๆก็ตามในกรุงเทพ ต้องไปแจ้งเรื่องต่อฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขต เพื่อขอรับหลักฐานสำคัญ ดังนี้
1.ร้านอาหารที่มีพื้นที่ไม่เกิน 200 ตารางเมตร ต้องยื่นคำขอเพื่อขอรับ “หนังสือรับรองการแจ้ง” มีค่าธรรมเนียม 1000 บาท
2.ร้านอาหารที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 200 ตารางเมตรขึ้นไป ต้องยื่นคำขอเพื่อขอรับ “ใบอนุญาต” มีค่าธรรมเนียม 3000 บาท

หลักฐานที่ต้องนำมาประกอบ
1.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาทะเบียนบ้าน ของผู้ขอรับใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองการแจ้ง
2.สำเนาทะเบียนบ้านของที่ตั้งร้านอาหาร
3.สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล พร้อมสำเนาบัตรประชาชนของผู้แทนนิติบุคคล
4.หนังสือมอบอำนาจที่ถูกต้องตามกฎหมายพร้อมสำเนาบัตรประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ (กรณีผู้ประกอบการไม่สามารถยื่นคำขอด้วยตนเอง)
5.กรณีการต่อใบอนุญาตต้องแนบวุฒิบัตร
6.แผนที่ร้านอาหาร พอสังเขป
ขั้นตอนการเปิดร้านอาหาร
1.ไปติดต่อที่สำนักงานเขตที่ตั้งของร้านอาหาร ยื่นคำร้องต่อฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล
2.เตรียมเอกสารต่างๆและหลักฐานประกอบให้พร้อม
3.กรอกแบบฟอร์มที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักเขตจัดให้ ดังนี้
– ก ร้านใหม่ = คำขอรับใบอนุญาตหรือหนังสือรับรอง แจังจัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหารหรืสถานที่สะสมอาหาร (แบบ สอ.1)
-ข ร้านเก่า= คำขอต่ออายุใบอนุญาตจัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหารหรือสถานที่สะสมอาหาร (แบบ สอ.5)

กรณีบอกเลิกกิจการ
ต้องยื่นคำขอบอกเลิกการดำเนินกิจการสถานที่จำหน่ายอาหารหรือก สถานที่สะสมอาหาร (แบบ สอ.10)

กรณีโอนกิจการ
ต้องยื่นคำขอโอนการดำเนินกิจการสถานที่จำหน่ายอาหารหรือสถานที่สะสมอาหาร (แบบ สอ.11)

กรณีแก้ไขใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองการแจ้ง
ต้องยื่นคำขอแก้ไขใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองการแจ้ง จัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหารหรือสถานที่สะสมอาหาร (แบบ สอ.12)

4.เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน และตรวจสุขลักษณะของร้านอาหารตามเกณฑ์ด้านสุขลักษณะ สรุปผลการตรวจสอบและเสนอให้ผู้อำนวยการเขตพิจารณาออกใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองการแจ้ง

กรณีหนังสือรับรองการแจ้ง เมื่อเจ้าหน้าที่เขตได้รับแจ้ง ให้ออกใบรับแจ้ง (สอ.2) แก่ผู้ประกอบการเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการประกอบกิจการตามที่แจ้งได้ชั่วคราวในระหว่างเวลาที่จนท.เขตยังไม่ได้ออกหนังสือรับรองการแจ้ง

ถ้าเจ้าหน้าที่เขตตรวจสอบแล้วถุกต้องตามแบบที่กำหนด ให้ออกหนังสือรับรองการแจ้งภายใน 7 วันทำการ นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง

กรณีใบอนุญาต เมื่อจนท.เขตได้รับคำขอรับใบอนุญาตหรือคำขอต่ออายุใบอนุญาต ให้ตรวจสอบความถูกต้องและความสมบูรณ์ของหลักฐาน
ถ้าจนท.เขตตรวจสอบแล้วพบไม่ถูกต้องตามแบบที่กำหนด ให้แจ้งผู้ประกอบการทราบภายใน 15 วันทำการ นับแต่วันที่ได้รับคำขอ
เจ้าหน้าที่เขตต้องออกใบอนุญาตหรือมีหนังสือแจ้งคำสั่งไม่อนุญาตพร้อมด้วยเหตุผลให้ผู้ขออนุญาตทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันได้รับคำขอ ซึ้งมีรายละเอียดถุกต้องหรือครบถ้วนตามที่กำหนดในข้อกำหนดท้องถิ่น
5.เจ้าหน้าที่แจ้งให้ผู้ได้รับใบอนุญาตมารับ พร้อมกับชำระค่าธรรมเนียมภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง หากพ้นกำหนดแล้วไม่มารับใบอนุญาตหรือไม่ชำระค่าธรรมเนียม ให้ยกเลิกการอนุญาตนั้น

เจ้าหน้าที่แจ้งให้ผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งมารับพร้อมกับชำระธรรมเนียมภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง หากพ้นกำหนดแล้วไม่มารับหนังสือรับรองการแจ้งหรือไม่ชำระค่าธรรมเนียม ให้ยกเลิกการอนุญาตนั้น

การชำระค่าธรรมเนียมให้เป็นไปตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องค่าธรรมเนียมสำหรับการดำเนินกิจการตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข พ.ศ 2547

6.ในกรณีที่ใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองการแจ้งสูญหายถูกทำลาย หรือชำรุดในสาระสำคัญ ต้องยื่นคำขอต่อจนท.ที่ฝ่ายสิงแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักเขตนั้นๆ เพื่อขอรับใบแทนใบอนุญาต หรือหนังสือรับรองการแจ้งภายใน 15 วัน นับแต่วันที่สูญหาย ถูกทำลาย หรือชำรุดในสาระสำคัญพร้อมกับเอกสารแจ้งความ

7.ผู้ได้รับใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองการแจ้ง ต้องแสดงโชร์ในร้านอย่างเปิดเผยและเห็นได้ง่าย ตลอดเวลาที่เปิดดำเนินการ

คำเตือน
-หนังสือรับรองการแจ้ง ไม่ต้องยื่นคำขอต่ออายุรายปี แต่ต้องชำระค่าธรรมเนียมทุกปี ก่อนครบรอบปี
-ใบอนุญาต ต้องยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตพร้อมชำระค่าธรรมเนียม รายปีก่อนจะหมดอายุ
-กรณีที่ผู้มายื่นคำขอใบอนุญาตล่าช้า เลยวันสิ้นอายุ เจ้าพนักงานท้องถิ่นจะรับคำขอต่อไว้โดยถือว่าเป็นการค้างชำระค่าธรรมเนียม และจะเรียกเก็บค่าปรับเพิ่มร้อยละ 20

 

นอกจากนี้หากร้านท่านจำหน่ายสุราและบุหรี่ด้วย ก็ต้องไปทำเรื่องกับสำนักงานสรรพสามิต ในเขตพื้นที่ท้องถิ่นของท่านเพื่อ ทำเรื่องขอใบอนุญาตจำหน่ายสุรา ประเภทที่3 และใบอนุญาตจำหน่ายยาสูบ อีกด้วย

หากร้านท่านมีการเปิดเพลงให้ลูกค้าฟัง (เปิดเพลงจากแผ่นหรือสื่อใดๆ) ก็ควรติดต่อบริษัทจัดเก็บลิขสิทธิ์เพลง จ่ายเงินให้ค่าลิขสิทธิ์เพลงด้วย ซึ้งแต่ละค่ายเพลงจะจัดตั้งบริษัทจัดเก็บลิขสิทธิ์ที่แตกต่างกัน (ตรงนี้ต้องขอบอกว่าค่าลิขสิทธ์เพลง ไม่แพง แต่ถ้าไม่จ่ายแล้วถูกจับได้ทีหลัง อันนี้จะจ่ายแพงกว่าอีกเป็นสิบๆเท่า ฉะนั้นจ่ายก่อนดีกว่า หรือไม่ก็เลี่ยงโดยการไปเปิดเพลงจากคลื่น FM แทนซะเลย

และหากร้านอาหารท่านมีบริการห้องคาราโอเกะด้วย ก็ต้องติดต่อจ่ายค่าลิขสิทธิ์เพลงคาราโอเกะ (ไม่เหมือนเพลง Audio ที่เปิดในร้านทั่วๆไป) ซึ้งคิดค่าลิขสิทธิ์เพลงคาราโอเกะเป็นห้องๆ หรือเป็น Harddisk (กรณีเพลงอยู่ในคอมในแต่ละห้อง) ซึ้งจะได้รับสติกเกอร์มาติดที่เครื่องเพื่อแสดงว่าได้จ่ายค่าลิขสิทธิ์แล้ว กรณีถูกตรวจสอบ

 

Credit: คู่มือธุรกิจ SMEs ตอนก่อร่างสร้างธุรกิจ by K SME

-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

รับโปรโมท ประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร ,ดูแลการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจร้านอาหาร
ด้วย Digital Marketing สร้างช่องทางใหม่ๆ เรียกลูกค้าผ่านโลกออนไลน์
-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

 

Tags: , , , ,

Monitor ร้านอาหารคุณด้วย Google Alerts

คุณเป็นคนหนึ่งไหม ที่เคยต้องนั่ง Monitor ใน Google ดูว่า มีใครมาพูดถึงร้านอาหาร เราว่าอะไรกันบ้าง

  • มีใครมาตั้งกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับร้านอาหารของเราในเน็ตบ้าง?
  • มีใครมาบ่น มาว่า มาด่า ร้านเราบ้างรึไม่?
  • มีใครมาเขียนรีวิวร้านของเราบ้างไหม?

ในฐานะนักการตลาดคนหนึ่ง ผมเองก็ต้องคอยตรวจสอบ ผลการค้นหา ใน Google อยู่ตลอด ว่ามีใครในโลกอินเตอร์เน็ตกล่าวถึงสินค้า แบรนด์ บริษัท ของเราอยู่ เพื่อที่จะ Monitor และวัดผลตอบรับ (เช็คกระแส) ว่าเป็นอย่างไรในปัจจุบัน

แต่จะให้มานั่ง เช็คจากหน้าเว็บ Google อยู่ประจำ ก็คงไม่ไหวเหมือนกัน วันนี้จึงขอมาแนะนำ บริการอันหนึ่งของกูเกิล ที่จะช่วยเราในเรื่องนี้ได้

Google-Alerts

“Google Alerts” หรือชื่อไทยว่า  กูเกิล แจ้งเตือน” เป็นบริการฟรีจากกูเกิล ที่จะช่วยเราจับตา Keyword คำที่เราสนใจติดตาม ซึ้งอาจจะเป็น

  • ชื่อแบรนด์หรือชื่อร้านอาหารของเรา
  • ชื่อบริษัทเรา
  • หรือแม้กระทั้ง ชื่อของเราเอง

วิธีการใช้ก็ง่ายๆ เข้าไปที่ www.google.co.th/Alerts

  1. ในช่องคำค้นหา –>ใส่คีย์เวิร์ด คำที่ต้องการ Monitor ลงไป
  2. ในช่องประเภท –> เลือกได้ว่าจะดูเฉพาะ บล็อก,อัพเดพ,การสนทนา หรือทั้งหมด
  3. ในช่องความถี่ –> เลือกได้ว่าแจ้งทันที, แจ้ง1ครั้งต่อวัน, 1ครั้งต่อสัปดาห์
  4. ในช่องความยาวอีเมล์ –>จำนวนของผลการค้นหา เลือกได้ 20, 50 ผลการค้นหา
  5. ในช่องส่งไปที่ –> ใส่อีเมล์ที่จะให้ส่งผลแจ้งเตือน หรือเลือกแบบ feed ก็ได้

ทันที่เมื่อ Google ได้ทำการ Index หน้าเว็บใดๆ ที่มีผลการค้นหา คำ Keyword ที่เราใส่ไว้ มันจะแจ้งมาเป็นรูปแบบอีเมล์ มาให้เราทราบทันที

หลังจากที่ผมทดลองใช้บริการของ Google ตัวนี้ไปได้ซักระยะ ก็บอกได้ว่าสร้างความพึงพอใจได้มากที่เดียว ผลการแจ้งเตือนทางอีเมล์ทำให้เรารับรู้ ได้อย่างทันทีว่ามีใครมาพูดถึงแบรนด์เราบ้าง

แนะนำอีกนิดว่า ควรใส่คำ Keyword ไว้ทั้งภาษาไทย และอังกฤษ และหากชื่อแบรนด์เรามีชื่อเรียกหลายๆแบบ ทั้งชื่อสั้น ชื่อยาว ก็ควรใส่เอาไว้ด้วย  เผื่อมีใครกล่าวถึงเรา จะได้รู้ทันที

-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

รับวางแผนการตลาด ประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร โปรโมท,โฆษณาร้านอาหาร

ด้วย Online Marketing สร้างช่องทางใหม่ๆ เรียกลูกค้าผ่าน Internet

www.PromoteRestaurant.in.th

-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

Tags: , , , ,

การตลาดร้านอาหาร สานสัมพันธ์ลูกค้าด้วย e-CRM

เปิดร้านอาหาร จะทำยังไงให้ลูกค้ากลับมารับประทานซ้ำๆ บ่อยๆ เรื่องนี้คงเป็นเรื่องที่เจ้าของร้านอาหาร ต้องมานั่งคิดถึงวิธีการเรียกลูกค้าทั้งใหม่และเก่า ให้กลับมาใช้บริการที่ร้านบ่อยๆมากขึ้น มีคนเคยบอกว่า ปัจจุบันลูกค้าที่จงรักภักดี (Loyalty) ต่อร้านใดร้านหนึ่ง หรือแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง นั้นหาได้ยากเต็มที่ เพราะลูกค้านั้นมีทางเลือกมากขึ้น มีร้านอาหารใหม่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา และนิสัยคนไทยทั่วไปก็เป็นคนชอบลองของใหม่ๆกันอีกด้วย

แล้วร้านอาหารจะทำอย่างไร ถึงจะสามารถเรียกลูกค้าให้กลับมาใช้บริการได้ถี่ขึ้นๆ การทำCRM หรือการบริหารจัดการความสัมพันธ์ลูกค้าคือคำตอบ CRM ย่อมาจากคำว่า  Customer Relationship Management เป็นกลยุทธ์การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า

จุดประสงค์หลักๆคือ

  1. ดึงลูกค้าใหม่ หรือลูกค้าขาจรให้กลายมาเป็นลูกค้าประจำของร้าน
  2. รักษาฐานลูกค้าประจำ ให้มีความจงรักภักดีกับร้านต่อไปอีกนานๆ (Brand Loyalty)

สำหรับธุรกิจร้านอาหาร ร้านกาแฟ ส่วนมากวิธีที่นิยมทำกัน คือการ สร้างบัตรสมาชิก (Member Card) หรือบัตร VIP Card แล้วแต่ว่าร้านไหนจะเรียกกัน แล้วให้ส่วนลด เป็นเปอร์เซ็นต์ หรือแถมคูปองส่วนลดให้เมื่อสมัคร ซึ่งเป็นวิธีที่ร้านอาหารใหญ่ๆ หรือ ร้านประเภท Fast food นิยมทำกัน ผมเองก็แนะนำว่าถึงแม้ว่าร้านอาหารของท่านจะไม่ใหญ่โตมากนัก ไม่มีสาขาเลยก็ตาม การให้ความสำคัญกับการ สร้างบัตรสมาชิก ยังเป็นสิ่งสำคัญอยู่ เพราะลงทุนเพิ่มอีกไม่มาก แต่ผลลัพธ์ที่ได้มาคุ้มค่ามากกว่า   ในวิชาการตลาดบอกไว้ว่า ต้นทุนในการหาลูกค้าใหม่นั้นแพงกว่า ต้นทุนการรักษาฐานลูกค้าเดิมถึง5เท่า

และสิ่งสำคัญที่มากกว่าตัวบัตรสมาชิก นั้นก็คือข้อมูลของลูกค้าของร้านคุณ เวลาจะทำใบสมัครสมาชิกร้าน

สิ่งที่ควรต้องให้กรอกคือ

  1. ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่นด้วยก็ได้
  2. วันเดือนปีเกิด (มีประโยชน์ต่อการเล่นโปรโมชั่นวันเกิด)
  3. เบอร์โทรมือถือ (มีประโยชน์ต่อการส่ง SMS promotion ต่างๆ)
  4. อีเมล์ลูกค้า (มีประโยชน์ต่อการส่ง email แจ้งข่าวสาร)
  5. ที่อยู่
  6. ที่ทำงาน
  7. ถามลูกค้าว่ารู้จักร้านจากสื่อไหน (มีช้อยท์ให้เลือกตอบ)
  8. ถามสิ่งที่ลูกค้าประทับใจในร้าน…………
  9. ข้อเสนอแนะ…………(ให้ลูกค้าเขียนแนะนำไอเดียเจ๋งๆให้ร้าน)…..

หลังจากลูกค้าส่งใบสมัครสมาชิก นอกจากจะมอบบัตรสมาชิกให้ลูกค้าไปแล้ว ผมแนะนำเพิ่มเติมว่าควรทำเป็นโบรชัวร์ร้านละเอียดต่างๆ แนบให้ลูกค้าไปด้วย บอกถึงเงือนไขการใช้บัตรอย่างละเอียด (ตรงนี้สำคัญ บางร้านไม่มีให้ ลูกค้าก็งงว่า เขาจะได้สิทธิ์พิเศษอะไรบ้าง) ใส่เบอร์โทร แผนที่ เว็บไซท์ร้าน อีเมล์ร้าน และหากร้านได้สร้างโปรไฟล์ในอินเตอร์เน็ตไว้พวก Facebook , Twitter , Hi5,  Youtube หรืออื่นๆ ก็ควรระบุ URL ไว้ด้วยและเชิญชวนให้ลูกค้าเข้ามาเป็นสมาชิก FanPage เพื่อพูดคุย-สานสัมพันธ์กันต่อบนโลกออนไลน์ และในโบรชัวร์คุณก็ยังสามารถโชร์รูปอาหารเมนูแนะนำของร้านได้อีก ถ้าร้านมีบริการ Delivery หรือจัดส่งอาหารถึงที่ก็ใส่รายละเอียดเพิ่มเติมเข้าไปได้เลย

เมื่อรวบรวมใบสมัครสมาชิกจำนวนหนึ่งแล้ว ก็ถือว่าร้านได้ฐานข้อมูลลูกค้าแล้ว  ร้านอาจหาโปรแกรมจำพวก CRM-database มาลงข้อมูลเก็บไว้ คัดแยกประเภทของลูกค้า จัดเกรดลูกค้า หรือถ้าไม่มีก็ลงข้อมูลใน excel ธรรมดาก็ยังได้

สิ่งที่จะแนะนำให้เริ่มทำ หลังจากมีฐานข้อมูล (Database) ของลูกค้าแล้ว ควรวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เช่น

  • แบ่งเป็นชาย/หญิงเท่าไร กี่เปอร์เซ็นต์
  • แบ่งลูกค้าตามอายุ แต่ละช่วงประมาณกี่เปอร์เซ็นต์
  • อาชีพที่ทำ
  • อาณาเขตที่พักของลูกค้า(เพื่อประเมินว่าฐานลูกค้ากว้างแค่ไหน)
  • รู้จักร้านจากสื่อไหน (ช่วยประเมินว่าสื่อไหนมีผลต่อการประชาสัมพันธ์ร้าน)
  • ลูกค้าแนะนำ ติติงเรื่องอะไรบ้าง ร้านก็นำมาปรับปรุง

สิ่งที่ใช้เป็นช่องทางสื่อสารกับลูกค้าได้

  • SMS ส่งข้อความเพื่อแจ้งโปรโมชั่นใหม่ๆ ,ส่ง SMS อวยพรวันเกิดลูกค้าพร้อมแจ้งโปรโมชั่นพิเศษในวันเกิด
  • Email ใช้ส่งจดหมายข่าว แจ้งเมนูอาหารใหม่ๆ โปรโมชั่นใหม่ๆของร้าน
  • ลองค้นหาอีเมล์ลูกค้าว่ามี Facebook หรือ Twitter รึไม่ แล้วก็ชวนมาเป็นเพื่อนกันในเว็บ Social Network หรือให้ลูกค้ามาเป็น FanPage ใน Facebook Page ของร้าน

ทั้งหมดนี้ก็เป็นตัวอย่างง่ายๆ ที่ร้านอาหารของท่านสามารถ ทำขึ้นมาและเชื่อมโยงกับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้านึกถึงร้านอยู่บ่อยๆ เกิด Brand Awareness

-หากลูกค้าคิดถึงอาหารประเภทนี้ ต้องนึกถึงร้านอาหารของท่านอันดับต้นๆ

-หากจะมาเลี้ยงงานวันเกิด หรือจัดงานปาร์ตี้ ก็ต้องนึกถึงร้านของท่านอันดับต้นๆ

-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
รับวางแผนการตลาด ประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร โปรโมท,โฆษณาร้านอาหาร
ด้วย Online Marketing สร้างช่องทางใหม่ๆ เรียกลูกค้าผ่าน Internet
-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

Tags: , , , ,

เปิดร้านอาหารใหม่ โปรโมทร้านอาหารยังไงดี

หลายๆท่านที่เปิดร้านอาหารใหม่ขึ้น ยังคิดไม่ค่อยออกว่าจะทำการประชาสัมพันธ์ หรือโปรโมทร้านอย่างไรดี ให้มีลูกค้าใหม่ๆ เข้ามารับประทานอาหารที่ร้านมากๆ วันนี้ผมมีไอเดียง่ายๆ ที่จะช่วยประชาสัมพันธ์ และโปรโมทร้านอาหารให้ลูกค้าหน้าใหม่เข้ามาลองรับประทานอาหารที่ร้านท่าน

ขอแบ่งรูปแบบการ PR เป็น 2 แบบใหญ่ๆคือ

  1. โปรโมทร้านรูปแบบดั่งเดิมหรือแบบออฟไลน์ (Traditional Channel or Offline Channel)
  2. โปรโมทร้านผ่านอินเตอร์เน็ตแบบออนไลน์ (Online Channel)

มาเริ่มด้วยวิธีดั่งเดิมกันก่อน เน้นการหาลูกค้าบริเวณใกล้ๆร้าน หรือในอาณาเขตรัศมีของร้านอาหารของท่าน

1. สื่อป้าย Outdoor ควรทำป้ายผ้าไวนิล ธงญี่ปุ่น หรือ Read the rest of this entry »

Tags: , , , , ,