Posts Tagged Restaurant

เจ้าของร้านโปรดทราบ!! ค่าถ่ายทอดฟุตบอลอังกฤษจาก CTH สำหรับร้านอาหาร

เอาข่าวนี้มาแจ้งกับเจ้าของร้านอาหารทุกท่านทราบครับ พอดีเจอกระทู้ในพันทิปเรื่องค่าถ่ายทอดสดบอลพรีเมียร์ลึก อังกฤษ สำหรับร้านอาหาร ร้านเหล้า ผับ บาร์ ที่มีการเปิดฟุตบอลให้ลูกค้ามาดูที่ร้าน

ตอนนี้ทาง CTH ซึ้งได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 3 ฤดูกาล ตั้งแต่ 2013 – 2015 ฟุตบอลที่คนไทยเราติดตามกันมากที่สุด หากร้านอาหารของท่านมีการเปิดถ่ายทอดสดฟุตบอลให้ลูกค้ามานั่งดูในร้าน ลองพิจารณาค่าเผยแพร่ด้วยนะครับ ซึ้งคิดราคาตามขนาดความกว้างของจอทีวี ตามนี้

 

Update 30/7/56 ทางเฟสบุ๊คของ CTH แจ้งราคาใหม่สำหรับร้านอาหาร มาแล้วนะครับ ปรับราคาลงอีกนิดจากราคาที่ออกมาครั้งแรก (ดูราคาช่วงแรก ได้จากภาพล่าง)

CTH_Premier_update300756

 

(ภาพด้านล่างนี้เป็นราคาเก่า นะครับที่ออกมาช่วงแรก ราคาจะสูงกว่าโปรใหม่ และยังไม่มีราคาเหมารายปี)

 

CTH_restaurant

 

ลองพิจารณาดูครับ ว่าราคานี้คุ้มทุนสำหรับร้านของท่านไหม เพราะบางกระแสก็ว่าแพงเกินไป(สำหรับร้านเล็กๆ ร้านตจว.) แต่สำหรับร้านกลางๆ-ใหญ่ หรือร้านสไตล์ผับ-บาร์ ยังไงก็ต้องมีบอลอังกฤษให้ลูกค้าดูอยู่แล้ว เพราะถือเป็นจุดขายหนึ่งเลยที่ทำให้ลูกค้าเดินเข้าร้าน

ถ้าร้านอาหารของท่านเปิดช่วงดึกๆ และใช้การดึงดูดลูกค้าเข้าร้านด้วยฟุตบอลอังกฤษก็ถือว่าต้องลงทุนจ่ายในส่วนนี้ แต่ถ้าเป็นร้านเล็กๆหน่อย ก็ลองคำนวณความคุ้มทุนละกันครับ ว่ารับไหวไหมสำหรับราคารายเดือนเท่านี้

สุดท้ายฝากเตือนด้วยว่าอย่าเอาแพ็คเกจที่ใช้ตามบ้านเรือน ไปใช้ในร้านอาหารนะ ถ้าถูกจับได้ ค่าปรับจะไม่คุ้มเสีย

 

Update เพิ่มเติม มีเคสร้านอาหารถูกจับ เรียกปรับ2แสน เพราะไม่รู้ ดันเอาแพ็คเกจ CTH แบบดูในครอบครัว ไปเปิดให้ลูกค้าในร้านอาหารดู แล้วโดนเจ้าหน้าที่จับ อ่านรายละเอียดได้ที่กระทู้พันทิป http://pantip.com/topic/33371813

เน้นย้ำ

เพื่อความสบายใจของท่านเจ้าของร้าน แนะนำว่าควรติดต่อไปที่ CTH โดยตรงโทร 1619 เพื่อสอบถามรายละเอียดสำหรับแพ็คเกจสำหรับร้านอาหาร ผับบาร์และสถานบริการ ดีกว่านะครับ  

-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

รับโปรโมท ประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร ,ดูแลการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจร้านอาหาร
ด้วย Digital Marketing สร้างช่องทางใหม่ๆ เรียกลูกค้าผ่านโลกออนไลน์
-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

 

 

Tags: , , , , , , , ,

อยากเปิดร้านอาหารใหม่ ต้องทำอย่างไรบ้าง

ธุรกิจร้านอาหารถือว่าเป็นธุรกิจฮอตฮิตที่ใครๆก็อยากทำ เพราะอาหารการกิน ถือเป็นปัจจัยสี่ในการดำรงชีวิตประจำวัน ยังไงซะคนเราก็ต้องทานอาหารวันละ 3 มื้อ ธุรกิจร้านอาหารในเมืองไทยเราจึงเป็นธุรกิจที่เฟื่องฟูมาก

Market shop.

ที่นี้เรามาดูว่าหากคิดจะเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเองสักร้านนึง เราต้องทำอะไรบ้าง

1.การจดทะเบียนพาณิชย์หรือทะเบียนนิติบุคคล ซึ้งแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะใหญ่คือ เมื่อจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจแล้ว จะมีสถานะเป็นบุคคลธรรมดาหรือเป็นนิติบุคคล

ลักษณะของธุรกิจที่จดทะเบียนเป็นบุคคลธรรมดา

  • เป็นการไปจดทะเบียนเพื่อแจ้งให้รู้ว่าคุณได้เริ่มต้นประกอบกิจการอย่างถูกต้องและเปิดเผย มีหลักแหล่งและสถานที่ตั้งของกิจการชัดเจน มีชื่อปรากฎอยุ่ในระบบการค้าของประเทศอย่างถูกต้อง
  • เรื่องภาระตามกฎหมาย การทำนิติกรรมสัญญา การชำะภาษีเงินได้ ยังคงเป็นไปในนามของตัวคุณซึ้งเป็นเจ้าของกิจการ
  • การไปจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจแบบนี้เราเรียกว่า จดทะเบียนพาณิชย์ หรือที่คุ้ยเคยกันว่าทะเบียนการค้า
  • ขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่เกินชั่วโมงกับค่าธรรมเนียมเพียง 50 บาท ถ้าอยู่ต่างจังหวัดก็ไปยื่นจดทะเบียนพาณิชย์ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดของจังหวัดที่ตั้งกิจการ

ลักษณะของธุรกิจที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล

  • เมื่อจัดตั้งกิจการแล้วในทางกฎหมายถือว่าตัวธุรกิจนั้นๆ แยกออกโดยเด็ดขาดกับความเป็นบุคคลธรรมดาของเจ้าของกิจการ การจะทำการใดๆ เป็นไปในนามกิจการทั้งหมด เหมือนว่ากิจการนี้เป็นอีกหนึ่งบุคคลที่เกิดขึ้นมาตามกฎหมาย
  • ประเภทของการจัดตั้งธุรกิจใหม่ที่เป็นนิติบุคคล โดยส่วนใหญ่มี 2 ประเภทคือ บริษัทจำกัด และ ห้างหุ้นส่วนจำกัด
  • สถานที่ที่จะไปยื่นจดทะเบียนบริษัทจำกัดและห้างหุ้นส่วนจำกัด ถ้าในเขตกทม. ก็ไปยื่นจดได้ที่สำนักงานบริการทะเบียนธุรกิจ หรือที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าถนนนนทบุรี อ.เมือง จ.นนทบุรี ส่วนในต่างจังหวัด ติดต่อที่สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัด ซึ้งมีอยู่ทุกจังหวัด ดูข้อมูลเพิ่มเติ่มที่เว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th

 

กฎหมายควรรู้สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร

ถือเป็นเรื่องปวดหัวเล็กๆ แต่ก็ต้องรู้ไว้สักหน่อยถือข้อกฎหมายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่จะเปิด

ภาษีอากรสำหรับธุรกิจ SME

  • ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา  กิจการร้านค้าที่จดทะเบียนเป็นทะเบียนพาณิชย์ ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด 94 ในครึ่งปีแรก และยื่นแบบ ภ.ง.ด 90 อีกครั้งในครึ่งปีหลัง
  • ภาษีเงินได้นิติบุคคล ธุรกิจที่จะทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดและบริษัทจำกัด ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด 51 ในครึ่งปีแรกเพื่อประมาณการรายได้ จากนั้นเมื่อสิ้นปีจะยื่นแบบ ภ.ง.ด 52 พร้อมส่งงบดุลและมีการตรวจสอบบัญชีด้วย
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม ถ้าเป็นทะเบียนพาณิชที่มีรายได้ทั้งปีไม่ถึง 1,800,000 บาทต่อปี ไม่ต้องจดภาษีมูลค่าเพิ่มก็ได้ แต่ถ้ามีรายได้เกิน หรือเป็นธุรกิจที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล (ห้างหุ้นส่วนจำกัดและบริษัทจำกัด) ทุกรายต้องจดภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยต้องยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แบบ ภ.พ. 01) เพื่อจะสามารถคำนวณภาษีที่ต้องเสียจากภาษีขายหักด้วยภาษีซื้อ

กฎหมายแรงงาน

ถือเป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่ผู้ประกอบการ ต้องทำความเข้าใจ ซึ้งกฎหมายที่ควรให้ความสนใจคือ

กฎหมายเกี่ยวกับการจ้างแรงงาน

มีประเด็นสำคัญที่คุณควรรู้คือ หลักเกณฑ์ในการทำสัญญาจ้าง หน้าที่ของทั้งลูกจ้างและของนายจ้าง การเลิกสัญญาจ้าง

  • สัญญาจ้าง มีการกำหนดคู่สัญญาเป็น 2 ฝ่ายคือ ฝ่ายเจ้าหนี้ ฝ่ายลูกหนี้ กำหนดถึงสิทธิหน้าที่ และการบอกเลิกสัญญา การจ้างลูกจ้างมาทำการงานให้แก่ตนในลักษณะเป็นงานประจำ มีการจ่ายค่าจ้างเป็นรายระยะเวลาที่ชัดเจน และนายจ้างมีอำนาจบังคับบัญชา ซึ้งถือเป็นการจ้างแรงงานที่ไม่จำเป็นต้องทำสัญญา เพียงแต่ทั้ง 2 ฝ่ายได้ตกลงกันก็เกิดสัญญาแล้ว

กฎหมายประกันสังคม

เมื่อคุณจัดตั้งธุรกิจ (ไม่ว่าเป็นรูปแบบบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล) คุณต้องไปขึ้นทะเบียนประกันสังคมนายจ้างและลูกจ้าง ที่สำนักงานประกันสังคมในพื้นที่จังหวัดที่กิจการตั้งอยู่ และมีหน้าที่ในการนำส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคม โดยเงินที่นำส่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ในส่วนของลูกจ้าง(ทุกคน) โดยหักนำส่งในอัตราที่สนง.ประกันสังคมกำหนดไว้ และในส่วนที่สอง คือส่วนที่นายจ้างต้องจ่ายสมทบเป็นจำนวนเท่ากับจำนวนรวมของเงินสมทบในส่วนของลูกจ้าง (ข้อมูลเพิ่มเติมดูที่เว็บกระทรวงแรงงาน www.mol.go.th และเว็บประกันสังคม www.sso.go.th )

 

restaurant-icon

เนื่องจากการเปิดร้านอาหาร หรือร้านขายอาหารเป็นกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพผู้บริโภค หรือก่อให้เกิดความรำคาญแก่ผู้อยู่อาศัยข้างเคียงได้ เพื่อประโยชน์ในการควบคุมหรือกำกับดูแลร้านอาหาร ทางกรุงเทพมหานครจึงได้ออกข้อบัญญิติ เรื่องสถานที่จำหน่ายและสถานที่สะสมอาหาร พ.ศ 2545 โดยอาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญิติการสาธารณสุข พ.ศ 2535

ห้ามมิให้ผู้ใดจัดตั้งร้านอาหาร ในอาคารหรือพื้นที่ใด เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองการแจ้งจากสำนักงานเขต ดังนั้นร้านอาหารที่ตั้ง ณ พื้นที่ใดๆก็ตามในกรุงเทพ ต้องไปแจ้งเรื่องต่อฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขต เพื่อขอรับหลักฐานสำคัญ ดังนี้
1.ร้านอาหารที่มีพื้นที่ไม่เกิน 200 ตารางเมตร ต้องยื่นคำขอเพื่อขอรับ “หนังสือรับรองการแจ้ง” มีค่าธรรมเนียม 1000 บาท
2.ร้านอาหารที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 200 ตารางเมตรขึ้นไป ต้องยื่นคำขอเพื่อขอรับ “ใบอนุญาต” มีค่าธรรมเนียม 3000 บาท

หลักฐานที่ต้องนำมาประกอบ
1.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาทะเบียนบ้าน ของผู้ขอรับใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองการแจ้ง
2.สำเนาทะเบียนบ้านของที่ตั้งร้านอาหาร
3.สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล พร้อมสำเนาบัตรประชาชนของผู้แทนนิติบุคคล
4.หนังสือมอบอำนาจที่ถูกต้องตามกฎหมายพร้อมสำเนาบัตรประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ (กรณีผู้ประกอบการไม่สามารถยื่นคำขอด้วยตนเอง)
5.กรณีการต่อใบอนุญาตต้องแนบวุฒิบัตร
6.แผนที่ร้านอาหาร พอสังเขป
ขั้นตอนการเปิดร้านอาหาร
1.ไปติดต่อที่สำนักงานเขตที่ตั้งของร้านอาหาร ยื่นคำร้องต่อฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล
2.เตรียมเอกสารต่างๆและหลักฐานประกอบให้พร้อม
3.กรอกแบบฟอร์มที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักเขตจัดให้ ดังนี้
– ก ร้านใหม่ = คำขอรับใบอนุญาตหรือหนังสือรับรอง แจังจัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหารหรืสถานที่สะสมอาหาร (แบบ สอ.1)
-ข ร้านเก่า= คำขอต่ออายุใบอนุญาตจัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหารหรือสถานที่สะสมอาหาร (แบบ สอ.5)

กรณีบอกเลิกกิจการ
ต้องยื่นคำขอบอกเลิกการดำเนินกิจการสถานที่จำหน่ายอาหารหรือก สถานที่สะสมอาหาร (แบบ สอ.10)

กรณีโอนกิจการ
ต้องยื่นคำขอโอนการดำเนินกิจการสถานที่จำหน่ายอาหารหรือสถานที่สะสมอาหาร (แบบ สอ.11)

กรณีแก้ไขใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองการแจ้ง
ต้องยื่นคำขอแก้ไขใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองการแจ้ง จัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหารหรือสถานที่สะสมอาหาร (แบบ สอ.12)

4.เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน และตรวจสุขลักษณะของร้านอาหารตามเกณฑ์ด้านสุขลักษณะ สรุปผลการตรวจสอบและเสนอให้ผู้อำนวยการเขตพิจารณาออกใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองการแจ้ง

กรณีหนังสือรับรองการแจ้ง เมื่อเจ้าหน้าที่เขตได้รับแจ้ง ให้ออกใบรับแจ้ง (สอ.2) แก่ผู้ประกอบการเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการประกอบกิจการตามที่แจ้งได้ชั่วคราวในระหว่างเวลาที่จนท.เขตยังไม่ได้ออกหนังสือรับรองการแจ้ง

ถ้าเจ้าหน้าที่เขตตรวจสอบแล้วถุกต้องตามแบบที่กำหนด ให้ออกหนังสือรับรองการแจ้งภายใน 7 วันทำการ นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง

กรณีใบอนุญาต เมื่อจนท.เขตได้รับคำขอรับใบอนุญาตหรือคำขอต่ออายุใบอนุญาต ให้ตรวจสอบความถูกต้องและความสมบูรณ์ของหลักฐาน
ถ้าจนท.เขตตรวจสอบแล้วพบไม่ถูกต้องตามแบบที่กำหนด ให้แจ้งผู้ประกอบการทราบภายใน 15 วันทำการ นับแต่วันที่ได้รับคำขอ
เจ้าหน้าที่เขตต้องออกใบอนุญาตหรือมีหนังสือแจ้งคำสั่งไม่อนุญาตพร้อมด้วยเหตุผลให้ผู้ขออนุญาตทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันได้รับคำขอ ซึ้งมีรายละเอียดถุกต้องหรือครบถ้วนตามที่กำหนดในข้อกำหนดท้องถิ่น
5.เจ้าหน้าที่แจ้งให้ผู้ได้รับใบอนุญาตมารับ พร้อมกับชำระค่าธรรมเนียมภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง หากพ้นกำหนดแล้วไม่มารับใบอนุญาตหรือไม่ชำระค่าธรรมเนียม ให้ยกเลิกการอนุญาตนั้น

เจ้าหน้าที่แจ้งให้ผู้รับหนังสือรับรองการแจ้งมารับพร้อมกับชำระธรรมเนียมภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง หากพ้นกำหนดแล้วไม่มารับหนังสือรับรองการแจ้งหรือไม่ชำระค่าธรรมเนียม ให้ยกเลิกการอนุญาตนั้น

การชำระค่าธรรมเนียมให้เป็นไปตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องค่าธรรมเนียมสำหรับการดำเนินกิจการตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข พ.ศ 2547

6.ในกรณีที่ใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองการแจ้งสูญหายถูกทำลาย หรือชำรุดในสาระสำคัญ ต้องยื่นคำขอต่อจนท.ที่ฝ่ายสิงแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักเขตนั้นๆ เพื่อขอรับใบแทนใบอนุญาต หรือหนังสือรับรองการแจ้งภายใน 15 วัน นับแต่วันที่สูญหาย ถูกทำลาย หรือชำรุดในสาระสำคัญพร้อมกับเอกสารแจ้งความ

7.ผู้ได้รับใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองการแจ้ง ต้องแสดงโชร์ในร้านอย่างเปิดเผยและเห็นได้ง่าย ตลอดเวลาที่เปิดดำเนินการ

คำเตือน
-หนังสือรับรองการแจ้ง ไม่ต้องยื่นคำขอต่ออายุรายปี แต่ต้องชำระค่าธรรมเนียมทุกปี ก่อนครบรอบปี
-ใบอนุญาต ต้องยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตพร้อมชำระค่าธรรมเนียม รายปีก่อนจะหมดอายุ
-กรณีที่ผู้มายื่นคำขอใบอนุญาตล่าช้า เลยวันสิ้นอายุ เจ้าพนักงานท้องถิ่นจะรับคำขอต่อไว้โดยถือว่าเป็นการค้างชำระค่าธรรมเนียม และจะเรียกเก็บค่าปรับเพิ่มร้อยละ 20

 

นอกจากนี้หากร้านท่านจำหน่ายสุราและบุหรี่ด้วย ก็ต้องไปทำเรื่องกับสำนักงานสรรพสามิต ในเขตพื้นที่ท้องถิ่นของท่านเพื่อ ทำเรื่องขอใบอนุญาตจำหน่ายสุรา ประเภทที่3 และใบอนุญาตจำหน่ายยาสูบ อีกด้วย

หากร้านท่านมีการเปิดเพลงให้ลูกค้าฟัง (เปิดเพลงจากแผ่นหรือสื่อใดๆ) ก็ควรติดต่อบริษัทจัดเก็บลิขสิทธิ์เพลง จ่ายเงินให้ค่าลิขสิทธิ์เพลงด้วย ซึ้งแต่ละค่ายเพลงจะจัดตั้งบริษัทจัดเก็บลิขสิทธิ์ที่แตกต่างกัน (ตรงนี้ต้องขอบอกว่าค่าลิขสิทธ์เพลง ไม่แพง แต่ถ้าไม่จ่ายแล้วถูกจับได้ทีหลัง อันนี้จะจ่ายแพงกว่าอีกเป็นสิบๆเท่า ฉะนั้นจ่ายก่อนดีกว่า หรือไม่ก็เลี่ยงโดยการไปเปิดเพลงจากคลื่น FM แทนซะเลย

และหากร้านอาหารท่านมีบริการห้องคาราโอเกะด้วย ก็ต้องติดต่อจ่ายค่าลิขสิทธิ์เพลงคาราโอเกะ (ไม่เหมือนเพลง Audio ที่เปิดในร้านทั่วๆไป) ซึ้งคิดค่าลิขสิทธิ์เพลงคาราโอเกะเป็นห้องๆ หรือเป็น Harddisk (กรณีเพลงอยู่ในคอมในแต่ละห้อง) ซึ้งจะได้รับสติกเกอร์มาติดที่เครื่องเพื่อแสดงว่าได้จ่ายค่าลิขสิทธิ์แล้ว กรณีถูกตรวจสอบ

 

Credit: คู่มือธุรกิจ SMEs ตอนก่อร่างสร้างธุรกิจ by K SME

-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

รับโปรโมท ประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร ,ดูแลการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจร้านอาหาร
ด้วย Digital Marketing สร้างช่องทางใหม่ๆ เรียกลูกค้าผ่านโลกออนไลน์
-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

 

Tags: , , , ,

ผลสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้สมาร์ทโฟนกับร้านอาหาร[infographic]

วันนี้เอาข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ใช้งานมือถือสมาร์ทโฟน ที่เกี่ยวข้องกับร้านอาหารมาให้ดูกันครับ เป็นผลสำรวจจากบริษัทวิจัยตลาด Lab42 ที่ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมของลูกค้าร้านอาหารกับการใช้งานมือถือ ทั้งก่อนจะไปทานที่ร้าน , ระหว่างทานอาหาร และหลังจากทานอาหาร ว่าคนส่วนใหญ่ใช้มือถือทำอะไรกันบ้าง

ผมอยากให้ท่านเจ้าของร้าน หรือผู้จัดการร้านทุกท่านได้รับทราบข้อมูลเหล่านี้นะครับ แล้วเอาไปลองประยุกต์ใช้กับร้านของท่านดู ว่าจะสามารถทำอะไรที่ตอบรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคสมาร์ทโฟนครองเมืองอย่างงี้ได้บ้าง

จากผลการสำรวจทั้งหมดพบว่า 95% ของผู้ตอบคำถามใช้ Smartphone ก่อนที่เขาจะออกไปทานอาหารนอกบ้าน

คำถามแรก คุณใช้มือถือสมาร์ทโฟนทำอะไรบ้างก่อนที่จะไปทานอาหารนอกบ้าน

20% ผู้คนใช้มือถือในการบอกกับเพื่อนๆว่าเขามีแผนการจะออกไปทานอาหารที่ไหน/กับใคร/อย่างไร

19% ใช้สมาร์ทโฟนค้นหาร้านอาหารที่่น่าสนใจ

18% ใช้สมาร์ทโฟนดูเมนูอาหาร/เมนูเครื่องดื่ม ที่น่าสนใจ

18% ใช้สมาร์ทโฟนค้นหาเส้นทางเดินทางไปยังร้านอาหาร

** 85% ของผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่า เชื่อถือรีวิวร้านอาหารจากผู้คนที่เคยไปทานอาหารร้านนั้นๆมาก่อน มากกว่าข้อมูลจากเว็บร้านอาหารโดยตรง หรือรีวิวจากนักชิมชื่อดัง

คำถามต่อมา คุณใช้สมาร์ทโฟนทำอะไรบ้างระหว่างที่กำลังรับประทานอาหารอยู่

19% ใช้สมาร์ทโฟนอัพเดทสถานะบนเฟซบุ๊ค

24% ถ่ายรูปจานอาหาร (พฤติกรรมนี้ปัจจุบันคนไทยก็นิยมมากๆเช่นกัน ที่จะต้องถ่ายรูปจานอาหารก่อนทาน)

18% เช็คอินบอกเพื่อนๆให้รู้ว่ากำลังทานอาหารที่ร้านไหน (Foursquare, Facebook Place, อื่นๆ)

13% ใช้มือถือเพื่อค้นหาร้านใกล้เคียงที่จะไปต่อหลังจากทานเสร็จ (70% ของผู้ที่ตอบช้อยนี้เป็นผู้ชาย)

คำถามถัดไป คุณใช้สมาร์ทโฟนทำอะไรบ้างหลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว

22% ผู้ใช้สมาร์ทโฟนบอกว่าอัพเดทสถานะบนเฟซบุ๊ค

22% ใช้สมาร์ทโฟนค้นหาเส้นทางกลับบ้าน

14% ใช้สมาร์ทโฟนอัพรูปอาหารที่เพิ่งได้ทานไป

มีเพียง 10% เท่านั้นที่บอกว่าไม่ใช้มือถือทำอะไรเลยหลังจากทานอาหารเสร็จ

##ทั้งนี้ยังมีตัวเลขน่าสนใจอื่นๆอีกเช่น

23% ของผลสำรวจบอกว่าเขาใช้สมาร์ทโฟนเกือบจะทุกครั้งที่จะออกไปทานอาหารนอกบ้าน

49% บอกว่ามือถือสมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้เมื่อจะออกไปรับประทานอาหาร

70% บอกว่าตนใช้มือถือสมาร์ทโฟนในอาหารมื้อค่ำ (Dinner) มากกว่าอาหารมื้ออื่นๆ

แอพอะไรบ้างที่คนใช้สมาร์ทโฟนนิยมใช้กัน

-Groupon/deal app แอพขายดีล (ใช้หาดีลส่วนลดร้านอาหารที่น่าสนใจ ก่อนที่จะไปทาน)

-Camera app แอพเกี่ยวกับการถ่ายรูป ตกแต่งรูป ที่จะทำให้ภาพอาหารดูน่าทานมากขึ้น (เมืองไทยตอนนี้นิยมสุดๆน่าจะเป็นแนว Instagram ที่ถ่ายรูปใส่ฟิลเตอร์แล้วโพสอัพเดท)

-Map app แอพแผนที่ หาเส้นทางไปร้านอาหาร

-Yelp ,OpenTable ,Urbanspoon แอฟรีวิร้านอาหารท้องถิ่น,จองโต๊ะออนไลน์ (สำหรับในไทยที่นิยมน่าจะเป็นแอพวงใน Wongnai, Openrice, HotSkoop, Loopin )

#########################################################################

ดูข้อมูลอินโฟกราฟฟิกนี้แล้ว น่าจะช่วยบอกอะไรกับเราได้ถึงพฤติกรรมลูกค้าร้านอาหารในยุคนี้นะครับ ลองเอาไปประยุกต์ใช้กันดูครับ ว่าร้านอาหารของท่านจะสามารถสร้างโปรโมชั่น หรือเล่นอะไรกับพฤติกรรมเหล่านี้ได้บ้าง

ยกตัวอย่างเช่น

– เช็คอิน Foursquare ที่ร้านแล้วโชร์พนักงาน รับส่วนลดเครื่องดื่ม/รับเมนูพิเศษ /เช็คอินจนได้เป็น Mayor จะได้อาหารพิเศษสุดๆ อะไรทำนองนี้

– อัพรูปภาพอาหารจานโปรดใน Facebook Fanpage ของร้านแล้วโหวตคะแนนรับรางวัลพิเศษ หรือส่วนลดพิเศษ

– อัพรูปอาหารแบบแนวๆ ใน Instagram แล้วแท็กชื่อร้าน รับรางวัลพิเศษ /ของที่ระลึก

ยังมีอีกหลากหลายแคมเปญที่จะคิดต่อยอด กับพฤติกรรมคนใช้สมาร์ทโฟนในร้านอาหารได้ครับ ลองเอาไปทำเป็นการบ้านดูนะครับ รับรองร้านของท่านจะไม่เอาท์แน่นอน

Credit : mashable.com

 

-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

รับโปรโมท ประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร ,ดูแลการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจร้านอาหาร
ด้วย Digital Marketing สร้างช่องทางใหม่ๆ เรียกลูกค้าผ่านโลกออนไลน์
-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

Tags: , , , , ,

สั่งอาหารสุดไฮเทค ด้วยเมนู Interactive บน iPad

นับวันเทคโนโลยีใหม่ๆ ยิ่งเข้ามามีผลกับการดำเนินชีวิตมากขึ้นเรื่อย แล้วร้านอาหารของคุณละ เตรียมพร้อมกับยุคสมัยดิจิตอลนี้แล้วรึยัง

วันนี้ขอยกเอาตัวอย่างของร้านอาหารต่างประเทศที่เริ่มประยุกต์ใช์ iPad มาแทนเมนูอาหารแบบเดิมๆกัน

โดยทั่วไปร้านอาหารแทบทุกร้านก็มักจะทำเมนูอาหารในรูปแบบแคทตาล็อก โชร์รายการอาหารและรูปอาหาร แยกกันตามหมวดหมู่ของประเภทอาหาร ใช่ไหม ลูกค้าก็เปิดเมนูอาหาร แล้วก็สั่งบริกรตามปกติ แต่วันนี้ iPad จาก Apple อาจช่วยสร้างความแปลกใหม่ ในการสั่งอาหารในร้านของคุณได้ด้วย Application ที่พัฒนาขึ้นมาเป็นเมนูอาหารแบบ Interactive สร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ ให้กับลูกค้าของคุณมากยิ่งขึ้น แทนที่จะเปิดเมนูอาหารแบบเดิม เปลี่ยนเป็นการกดเมนูอาหารบนหน้าจอไอแพด เลือกเมนูที่ต้องการ กดดูรูปอาหารพร้อมดูส่วนประกอบของอาหารได้อีกด้วย ลูกค้าสามารถกดสั่งอาหารได้ทันทีจากหน้าจอ iPad โดยApp อาจจะมีช่อง Option ต่างๆให้ลูกค้าเลือกได้เองเช่น

  • สั่งต้มยำกุ้ง สามารถกดเลือกไซน์ได้ว่าต้องการเป็นหม้อไฟ ถ้วยกลาง หรือถ้วยเล็ก
  • สั่งสเต็กเนื้อ โปรแกรมก็จะถามคุณทันทีว่าต้องการแบบสุกระดับไหน โดยโชร์ภาพระดับการย่างให้คุณดูก่อนเลือก
  • โปรแกรมอาจสร้างให้มีคำแนะนำ ไวน์ที่เหมาะสมกับประเภทเนื้อที่คุณสั่งมารับประทานได้ด้วย
  • หากไม่ต้องการใส่ส่วนประกอบอาหารบางชนิดที่คุณไม่ชอบ ก็เลือกได้ เช่นไม่ใส่พริก ไม่ใส่หอมใหญ่
  • ลูกค้าสามารถทวนรายการอาหารพร้อมค่าใช้จ่าย ก่อนจะกดยืนยันรายการอาหารที่สั่ง

ความสะดวกสบาย จะเพิ่มมากขึ้นแน่นอน และรายการอาหารที่สั่งทั้งหมดจะออนไลน์ไปที่ห้องครัวและแคชเชียร์ทันที

ลองดูตัวอย่างจากคลิปวีดีโอข้างล่างนี้ ร้านอาหารจากออสเตรเลียและจากญี่ปุ่น ในการประยุกช์ใช้ iPad menu

ที่มา: news.com.au

-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

รับวางแผนการตลาด ประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร โปรโมท,โฆษณาร้านอาหาร
ด้วย Online Marketing สร้างช่องทางใหม่ๆ เรียกลูกค้าผ่าน Internet
-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

Tags: , , ,

Case studyการใช้ Facebook Marketing กับร้านอาหาร

วันนี้อยากมาเล่าถึงเคสการใช้ Facebook Marketing กับร้านอาหาร ที่เรียกว่าช่วยทั้งเพิ่มยอดขาย และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าของร้าน ได้อย่างมากทีเดียว

ผมทำ E-Marketing ให้ร้านอาหารเกาหลีเล็กๆอยู่ร้านนึงย่านพญาไท แต่ก่อนร้านนี้คนจะไม่ค่อยรู้จักมากนัก เพราะทำเลที่ตั้งของร้านอยู่ในซอยของคอนโด และไม่ใช่ทางผ่านของคนทั่วไป หากไม่ใช่เป็นคนที่อาศัยอยู่ในคอนโดนั้น ก็แทบจะไม่รู้จักร้านนี้เลยแหละ

ผมได้ทำ E-Marketing เพื่อประชาสัมพันธ์ธุรกิจด้วยหลายๆช่องทาง อันนึงที่ใช้คือการสร้าง Facebook FanPage ของร้านขึ้นมา ซึ้งก็เหมือนกับหลายๆธุรกิจที่สร้าง FanPage เอาไว้เชื่อมต่อพูดคุย-สื่อสารกับลูกค้า แต่ผมมองถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคกลุ่มหลักของร้าน ซึ้งส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น กำลังเรียนมัธยมและมหาวิทยาลัย รวมถึงคนทำงานรุ่นใหม่ ซึ้งส่วนใหญ่สมัครใช้งาน Facebook กันเกือบทั้งหมด และใช้มือถือ Smartphone ยี่ห้อดังๆ ทั้ง iPhone , BB , Android กันทั้งนั้น

เนื่องด้วยเจ้าของร้านSALANG  ซึ่งมีกัน 3 คน เป็นเกาหลี 1 คนไทย 2  ค่อนข้างที่จะดูแลลูกค้าที่มารับประทานอาหารได้อย่างดีมาก เดินมาช่วยปิ้ง ช่วยย่างให้กับลูกค้าเป็นประจำ เสิรฟ์น้ำ เสิร์ฟอาหารเองตลอด ทำให้ลูกค้ารู้สึกดีและประทับใจในตัวเจ้าของร้านมากๆ

เทคนิคที่ใช้ในร้านนี้ก็คือ สร้างรหัส QR-code และลิงค์ URL ของ Facebook FanPage ของร้านขึ้นมา แล้วติดไว้ที่โต๊ะอาหารทุกตัวในร้าน ซึ้งลูกค้าที่มาทานอาหารในร้าน สามารถที่จะสแกนโค้ด และลิงค์เข้า Facebook ของร้านได้โดยตรง

Facebook marketing2

กิมมิคนึงของร้านนี้คือ เจ้าของร้านมักจะหยิบกล้องมาถ่ายรูปลูกค้าที่มาเป็นกลุ่มๆ (ขออนุญาตก่อนถ่ายทุกครั้ง) ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นมัธยม มหาลัย และคนทำงานรุ่นใหม่ ก็จะไม่ค่อยเขินกันนัก แถมบางกลุ่มยังชอบให้ถ่ายอีกด้วย และเจ้าของร้านก็จะขออัพรูปที่ถ่ายกันนี้ขึ้นไปบน Facebook ของร้าน ใครอยากตามดูรูปตัวเอง ก็เข้าไปกด “Like” เป็น FanPage  แล้วก็ไปดูรูปกลุ่มตัวเองที่มาทานที่ร้านนี้ได้

FB Marketing

กิมมิคอีกอันนึงก็คือ หากลูกค้าคนไหนมาเป็นแฟนเพจ แล้วกด Tag รูปตัวเองและพ้องเพื่อน ก็จะทำให้รูปภาพที่ไปทานอาหารที่ร้านนี้ ไปขึ้นในสเตตัสของ Facebook เจ้าตัวด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ  เพื่อนคนอื่นๆของคนที่ถูก Tagรูป ก็จะเห็นเพื่อนกำลังนั่งกินอาหารเกาหลี เห็นบรรยากาศของร้าน และก็มักจะคอมเมนต์ว่า ไปกินอะไรมา? ร้านไหน? เมื่อไร? คอมเมนต์กันไปๆมาๆ สุดท้ายมักจะจบด้วย วันหลังพาไปกินกันนะ น่าอร่อยจัง ประมาณนี้แทบทั้งนั้น

มันเปรียบเสมือนทำ Viral marketing ทางอ้อม เพราะได้ลูกค้ากลุ่มๆใหม่ๆเข้ามาลองทาน โดยมีลูกค้าเก่าเป็นคนเชื้อเชิญ | ส่วนลูกค้าเก่าพอวันหลังกลับไปดูเฟซบุ๊คของตัวเองมาเจอรูปที่มากินกันที่ร้าน ก็จะเกิดอาการอยากกลับมาทานอีกครั้ง เป็นการสร้าง Awareness ได้ดีจริงๆ

ส่วนคนที่ยังไม่เคยมาทานที่ร้าน ได้เข้าไปดูรูปกลุ่มอื่นๆที่เคยมาทานอาหารของร้าน ก็จะมีความรู้สึกที่ดี ดูบรรยากาศเป็นกันเอง ดูครึกครื้น และเกิดอารมณ์อยากมาลองรับประทานบ้าง ก็เป็นแรงกระตุ้นให้ตัดสินใจมาทานที่ร้าน ได้อีกแรงเช่นกัน

Tagรูปใน facebook

-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
รับวางแผนการตลาด ประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร โปรโมท,โฆษณาร้านอาหาร
ด้วย Online Marketing สร้างช่องทางใหม่ๆ เรียกลูกค้าผ่าน Internet
-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

Tags: , , ,