QR-code  (คิวอาร์โค้ด) ในเมืองไทยเริ่มนิยมมาได้ระยะนึงแล้ว ช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมานี้ เจ้าบาร์โค้ดรูปแบบสีเหลี่ยมๆ นี้ฮิตไปทั่ว แบรนด์ต่างๆ เอาเจ้า QRcode ไปประยุกต์ใช้ ต่อยอดทำการตลาดกันมากมาย เพราะคิวอาร์โค้ดนั้นลดขั้นตอน ทีลูกค้าต้องมาจดจำชื่อยาวๆ เพราะเพียงยกมือถือมาสแกน ก็จะถอดรหัสออกกลายเป็นลิงค์ เข้าสู่หน้าเว็บที่เราตั้งค่าไว้ได้เลย

ตอนนี้แบรนด์ใหญ่ๆ เริ่มใช้เจ้ารหัส QR-code หรือ บางคนเรียกว่าเป็น 2D barcode กันมากขึ้น เปิดหนังสือพิมพ์ก็เริ่มเห็นรหัส คิวอาร์โค้ด มากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ ก็จะเอา URL website มาแปลงเป็นรหัส QRcode กัน แล้วก็แสดง Code ไว้ในส่วนหนึ่งของหน้าโฆษณา เพื่อให้คนที่มีมือถือที่มีโปรแกรมถอดรหัสได้(ส่วนมากเป็น SmartPhone) มาสแกน แล้วลิงค์ตรงไปหน้าเว็บไซต์ของสินค้าแบรนด์นั้นได้เลย ซึ่งก็สะดวกดี ไม่ต้องมานั่งจำชื่อเว็บยาวๆอีกต่อไป แล้วปัจจุบันคนไทยเราก็ใช้มือถือเข้าเว็บกันมากขึ้นด้วย

ผมเองก็เลยปิ้งไอเดียว่า เราสร้าง Facebook ให้ร้านอาหารที่ดูแลอยู่ก็หลายร้าน ทำไมลูกค้าที่เขามารับประทานอาหารในร้านต้องมานั่งจำชื่อ FacebookPage ยาวๆของร้านด้วย จึงได้เริ่มต้นสร้างรหัส QR-code เพื่อลิงค์เข้า Facebook FanPage ของร้านโดยตรง โดยให้ติดป้ายแสดงเจ้าตัวรหัส QR-code นี้ไว้ข้างๆโต๊ะอาหารทุกโต๊ะ และจุดต่างๆที่ลูกค้าสามารถเดินผ่าน และสังเกตุเห็นได้

ข้อดีคือ ลูกค้าที่มีมือถือจำพวก SmartPhone ต่างๆ ทั้ง  iPhone , Android Phone , Window Phone รวมถึง Nokia , Samsung  และมือถือรุ่นใหม่ๆ มักจะมีโปรแกรมถอดรหัสเจ้าคิวอาร์โค้ดนี้ได้อยู่แล้ว เพียงแค่หยิบมือถือแล้วเอากล้องมาสแกนที่รหัสของเรา มันก็จะถอดรหัสออกมาเป็น URL ได้ตามที่เราตั้งค่าไว้ (ส่วนมากผมใส่ URL facebook Pageของร้าน) แล้วลูกค้าก็มากดปุ่ม “Like” หรือ“ถูกใจ” ได้เลย เป็นการเพิ่มยอดสมาชิก FanPage ได้ดีทีเดียว เป็นการสร้างช่องทางใหม่ๆ ให้ลูกค้าของร้าน เกิดความประทับใจ และเปลี่ยนลูกค้าขาจร มาเป็นลูกค้าขาประจำได้อีกด้วย

 

 

Tags: , , , ,