Posts Tagged การตลาดร้านอาหาร

5กิมมิคอาหาร ที่จะทำให้ร้านปังมาก!!

5กิมมิคอาหาร ทำให้ร้านปังมาก
ทำธุรกิจร้านอาหารสมัยนี้ แค่อาหารอร่อย หรือบรรยากาศร้านดีอย่างเดียว มันอาจเรียกความสนใจจากลูกค้าได้ไม่มากพอเสียแล้ว สมัยนี้มันต้อง มีกิมมิค Gimmick ลูกเล่นที่ใส่ลงไปในอาหาร หรือมีลูกเล่นในการนำเสนออาหารที่แตกต่างไม่เหมือนใคร ถึงจะสามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้สนใจร้านคุณได้ เป็นอีกหนึ่งวิธีโปรโมทร้านอาหาร ที่ได้ผลเสมอถ้าคุณค้นพบกิมมิคนั้นได้ แล้วทำให้มันโดดเด่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนดึงลูกค้าให้มาลองที่ร้านได้ หรือทำให้ลูกค้าถ่ายรูป ถ่ายคลิปแชร์โซเชียลได้ ก็คือว่าร้านคุณเตรียมตัวดังได้เลย เอาละ เรามาดูกันว่า 5 กิมมิคอาหาร ที่จะทำให้ร้านปังมาก มีอะไรกันบ้าง

5กิมมิค ลูกเล่นสำหรับร้านอาหารและคาเฟ่มีดังนี้

1.เมนูจานยักษ์ กิมมิคแรกที่ขอแนะนำ เป็นกิมมิคเลเวลBeginner เรียกลูกค้าแบบไม่ต้องคลีเอตอะไรมากมาย แค่ทำให้อาหารจานนั้นให้มันใหญ่ขึ้นระดับ SuperSize หรือใหญเบิ้มขึ้นเป็น 2เท่าตัว 3เท่าตัว หรือ4เท่าตัว ก็สร้างความน่าสนใจให้กับร้านคุณได้แล้ว

บะหมี่จอมพลัง กิมมิคอาหารจานยักษ์

GoldCurryBKK กิมมิคอาหารจานยักษ์

ยกตัวอย่างร้านบะหมี่จอมพลัง ตลาดนัดรถไฟ, ร้านอั๊ยยะ ก๋วยเตี๋ยวซีฟู้ด , ร้านข้าวมันไก่ศรีเหลืองโภชนา , ร้าน Gold Curry Bangkok
คือร้านเหล่านี้อาหารไซต์ธรรมดานั้นมีอยู่แล้ว แต่การเพิ่มจานไซต์ยักษ์ ทำให้เกิดความสนใจของผู้คนมากขึ้น และที่มักจะทำกันคือ มีกิจกรรมแข่งขันกินอาหารจานยักษ์ในเวลาจำกัด กินหมดไม่ต้องจ่ายตังค์ หรือบางร้านถ้าสั่งไซต์ Super XXL กินหมดภายในเวลากำหนด นอกจากกินฟรีแล้วยังได้เงินเป็นรางวัลซะอีกด้วย
กิมมิคเมนูพรีเมี่ยม ก๋วยเตี๋ยวต้มยำพี่อ้อ

2. สร้างเมนูซูเปอร์พรีเมี่ยม อีกกิมมิคที่น่าสนใจ สำหรับร้านอาหาร ที่เดิมอาจขายอาหารธรรมดาที่ใครๆก็ขายกันเช่นร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ก็เพิ่มเมนูที่ใส่วัตถุดิบระดับซูเปอร์พรี่เมี่ยมเข้าไป ทำให้ดูโดดเด่น สะดุดตาเมื่อถ่ายรูป
ยกตัวอย่างร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำพี่อ้อ ปกติขายก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง อยู่แล้วก็เพิ่มเมนูเป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้งลอบสเตอร์เข้าไป ใส่กุ้งไปเลยทั้งตัว ให้ตัวกุ้งมันลอยเชิดหน้าชูตา ดูโดดเด้งสะดุดตาคน ตั้งชื่อเมนูเก๋ๆ โดนใจวัยรุ่น รับรองเป็นใครก็ต้องหยิบมือถือแล้วถ่ายรูปแน่นอน บางทีโต๊ะข้างๆอาจขอมาถ่ายรูปด้วยก็เป็นได้ ส่วนแม่ค้าเองก็อย่าลืมโปรโมทแรงๆผ่านโซเชียล มีวิธีการอีกมากมายที่กระตุ้นยอดได้จากการสร้างเมนูซูเปอร์พรีเมี่ยมขึ้นมา
กิมมิคอาหาร ยืดได้ ไหลได้ เยิ้มได้

3. “ยืด ไหล เยิ้ม” จำไว้ 3 คำนี้วัยรุ่นชอบมาก สร้างเมนูใหม่ๆออกมาแล้วเวลาจะทาน มันสามารถยืดได้ ไหลได้ เยิ้มได้ ลูกค้าชอบแน่นอน ยกตัวอย่างชีส มันเป็นวัตถุดิบที่วัยรุ่นหลายๆคนหลงไหล ระดับที่มีกลุ่ม CheeseLover กันเลย เพราะความอร่อยและฟีลลิ่งการยืดได้ เยิ้มได้ ขณะทาน จนมีบางคนกล่าวไว้ว่า “เพียงร้านคุณมีเมนูอะไรก็ได้ที่มีชีสเป็นพระเอก คุณก็จะได้ฐานลูกค้ากลุ่มคนรักชีสตามไปกินแน่นอน” ลองคิดสรรเมนูใหม่ที่เพิ่มชีสแบบที่ยืดได้มาใส่ไว้ด้วย รับรองลูกค้าชอบแน่นอน ยิ่งถ้าเป็นเมนูที่ปกติเวลากินมันไม่มีชีสอยู่แล้ว แต่คุณประยุกต์การเพิ่มชีสมาใส่ในเมนูนั้นๆ แล้วทำให้ลูกค้าได้รับสัมผัสของฟีลลิ่งเวลายืดชีสก่อนทานได้ เมนูนั้นจะได้รับความนิยมมากขึ้นแน่นอน

หรือแม้กระทั้งปัจจุบันนี้ ร้านชาบูและร้านปิ้งย่าง ที่ขายกันหัวละ 299-399 ตอนนี้ก็มีการเพิ่มชาบูชีส เข้าไปแล้ว ใส่มอซซ่าเรล่าชีส ให้มันห่อชิ้นเนื้อหมู เนื้อกุ้งก่อนทาน ลูกค้าวัยรุ่นจะชอบมาก

นอกจากชีส อาการ ไหล+เยิ้ม ยังสามารถใช้ได้กับเมนูอาหารอื่นๆอีก เช่น ซาลาเปาไส้ไหล ซาลาเปาลาวา บิออกมาแล้วมีไส้ไข่เค็มแดงๆไหลเยิ้มออกมา หรือขนมโทสต์เช่น โทสต์ผ่ากลางแล้วมีไส้ไหลออกมาได้ ก็ถือว่าอยู่ในกิมมิคประเภทนี้ด้วยเช่นกัน
กิมมิค ภาชนะแปลกๆร้านแล้วแต่กระเพราแท้

4. ภาชนะแปลกตา ถ้าอาหารที่คุณขายมันสร้างความแตกต่างได้ยาก หรือเพิ่มวัตถุดิบแพงๆแล้วคนไม่ซื้อ ก็ลองเปลี่ยนภาชนะในการเสิร์ฟดูไหม อาหารคุณจะดู Cool ขึ้นไปอีกระดับ หรือบางร้านก็เปลี่ยนภาชนะแล้วเรียกความฮา ความกวน ได้เลยเช่นกัน
ตัวอย่าง : ร้านแล้วแต่กระเพราแท้ ขอนแก่น เน้นขายข้าวผัดกระเพรา แต่ความแปลกของร้านนี้คือ ถ้าลูกค้าสั่งว่าเสิร์ฟใส่อะไรมาก็ได้แล้วแต่พ่อค้า พ่อค้าร้านนี้จะเลือกภาชนะแปลกๆที่ไม่นึกว่าจะเอามาให้ลูกค้าใส่อาหารมาเสิร์ฟกัน เช่น กระทะของร้านหมูกระทะ  กระบวยตักน้ำ ที่ตักน้ำแข็ง กาต้มน้ำ กระทะไฟฟ้า หม้อหุงข้าว ตาชั่งกิโล จานข้าวหมา(ก็มีนะ) ซึ้งสร้างรอยยิ้มและเรียกเสียงฮาให้ได้มากพอสมควร เพราะลูกค้าก็ต้องคอยลุ้นว่าอาหารที่สั่งไปแล้ว เขาจะเสิร์ฟใส่อะไรมาให้ เป็นการลุ้นก่อนจะได้ทาน และด้วยความแปลกของกิมมิคอันนี้ก็ทำให้ไปสะดุดตารายการทีวีหลายๆช่อง จนมาติดต่อขอถ่ายทำไปออกอากาศ ได้ช่องทาง Free Media ไปอีกมากมาย

 

กิมมิค เพิ่มดรายไอซ์ สร้างจุดขาย

5. Dry Ice ถ้าคุณขายของหวานที่เป็นแนวไอศกรีมหรือของที่เย็นๆ การเพิ่มกิมมิคโดยการใส่ดรายไอซ์ลงไป ก็เป็นเทคนิคที่เรียกแขกได้เช่นกัน ตอนนี้เริ่มมีร้านที่ขายไอศกรีม หรือเครื่องดื่มเริ่มใช้เทคนิคการเพิ่มดรายไอซ์เข้าไป ทำให้เวลาเสิร์ฟลูกค้า มันจะได้ฟีลลิ่งของความเย็นลอยรอบๆชาม ถ่ายรูปแล้วอัพโซเชียล เพื่อนๆกดLike แน่นอน
ตัวอย่าง ” ร้านJaiyen Cafe  ที่เสิร์ฟไอศกรีมพร้อมดรายไอซ์ มาพร้อมชื่อ JaiyenShabu , ร้านยศเสไอติมหม้อไฟ ที่เสิร์ฟไอติมมาในภาชนะคล้ายๆหม้อไฟ แล้วเพิ่มกิมมิคโดยการใส่ดรายไอซ์ไว้ตรงกลาง เวลาเสิร์ฟลูกค้าค่อยเทน้ำลงไป ดรายไอซ์ก็จะปล่อยควันลอยๆอบอวลไปทั่ว วัยรุ่นคนไหนไม่หยิบมือถือมาถ่ายรูปไว้ก็ใจแข็งเกินไปแล้ว

 

นี้คือตัวอย่าง 5 กิมมิค ระดับพื้นๆที่ช่วยทำให้ร้านคุณ “มีอะไร” มากกว่าเดิม สร้างความดึงดูดลูกค้าให้มาที่ร้านคุณมากขึ้น…. เปิดร้านอาหารในยุคโซเชียลแบบนี้ มันต้องมีลูกเล่นนะครับ เพราะความแปลก มันจะช่วยไวรัลแนะนำต่อจากกลุ่มลูกค้าไปอีกเรื่อยๆ ฝากเอาไว้ให้คิดกันนะคับ และถ้าหากคุณมี กิมมิคอะไรแปลกใหม่ อยากนำเสนอมาให้เราดู คอมเม้นต์มาด้านล่างได้เลยนะ   ^^

Tags: , , , , , ,

แนะนำ App Instant9 แอพรวมโปรโมชั่นร้านอาหาร

วันนี้ขอมาแนะนำแอพใหม่มาแรงอีกหนึ่งแอพ ที่น่าจะมีประโยชน์ต่อร้านอาหารต่างๆ ในยุคสมาร์ทโฟนครองโลก

Instant 9 แอพรวมโปรโมชั่นร้านอาหารใกล้ตัว

แอพพลิเคชั่นนี้ เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานนัก แต่มียอดดาวโหลดจากผู้ใช้มือถือมากมาย ทั้งจากฝั่งไอโฟน และฝั่งแอนดรอยท์โฟน

อธิบายแบบง่ายๆก่อนว่าแอพ instant9 ทำอะไรได้บ้าง สมมติว่าเรามีแอพนี้ไว้ในสมาร์ทโฟนของเราแล้ว เวลาที่เราอยากจะทานอาหาร เราก็กดแอพนี้ดูได้เลยว่ามีร้านอาหารร้านไหนรอบตัวเราบ้าง แต่ละร้านมีโปรโมชั่น-ส่วนลด อะไรบ้าง ซึ่งตัวแอพจะมีโปรไฟล์ของแต่ละร้านให้เราคลิกเข้าไปดูรายละเอียดของร้านนั้นๆพร้อมกับโปรโมชั่นต่างๆที่มีอยู่ อยากทานร้านไหนก็เดินเข้าร้านนั้นๆแล้วกดรับสิทธิ์ (Get Offer) เพื่อใช้เป็นส่วนลดร้านนั้นๆได้เลย

มองในแง่ของเจ้าของธุรกิจร้านอาหาร App Instant9 ก็คือแอพตัวช่วยในด้านการจัดการการตลาด และการทำโปรโมชั่นร้านอาหาร ผ่านสมาร์ทโฟนบนมือถือ เพิ่มช่องทางให้ลูกค้ารู้จักร้านมากขึ้น เข้าถึงได้ง่าย ทุกที่ ทุกเวลา บอกพิกัดตำแหน่งของร้านได้พร้อมโปรโมชั่นปัจจุบันที่ร้านมีอยู่ หรือหากร้านมีบริการจัดส่ง Delivery ก็สามารถเข้าร่วมกับทางแอพ ส่งรูปอาหารพร้อมราคาแต่ละเมนู ให้แสดงผลผ่านหน้าจอบนแอพ instant9 ด้วยก็ได้

ดาวโหลดแอพ instant9 ได้ตามลิงค์ดังนี้

ระบบ iOS (iPhone , iPad) : http://itunes.apple.com/th/app/instant-nine./id570930450

ระบบ Android Phone : http://play.google.com/store/apps/details?id=com.khroton.instant9

 

Logo_instant9

หน้าจอแรกเมื่อเข้าสู่ตัวแอพ

Instant9_1

แรกเริ่มใช้งานแอพจะเชื่อมต่อกับ Facebook Profile ของผู้ใช้งานเพื่อล็อกอินเข้าใช้งาน

Instant9_nearby

หน้าแรกค่าดีฟอลท์ของตัวแอพ instant9 จะโชร์รายชื่อร้านอาหารที่อยู่ในรัศมีใกล้ตัวเรามากที่สุด แสดงเรียงลำดับไปเรื่อยๆ Read the rest of this entry »

Tags: , , , ,

ผลสำรวจบทความรีวิวร้านอาหารออนไลน์มีผลต่อการตัดสินใจมากถึง 72%

ในยุคก่อนที่จะมีอินเตอร์เน็ต การซื้อสินค้าและบริการแต่ละครั้งของผู้บริโภคมักได้รับอิทธิพลจากข้อมูลในสื่อดั่งเดิม เช่นหนังสือพิมพ์หรือคำแนะนำแบบปากต่อปากเป็นหลัก  แต่พอมาในยุคหลังที่อินเทอร์เน็ตเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน อิทธิพลจากสื่อในรูปแบบเดิมก็ถูกแทนที่ด้วยข้อมูลบนโลกออนไลน์ โดยผู้บริโภคส่วนใหญ่เริ่มหันมาใช้วิธีการหาเสิร์ชข้อมูลสินค้าหรือบทความรีวิวออนไลน์มากขึ้น เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจก่อนการซื้อสินค้าหรือใช้บริการในร้านอาหาร

rating-star

เว็บไซต์ Bluepolointeractive.com ในอเมริกาได้สอบถามจากกลุ่มตัวอย่างที่มักเสิร์ชหาข้อมูล (รีวิว) บนโลกออนไลน์ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าเป็นประจำ พบว่าผู้บริโภคกว่า 72% เชื่อว่าข้อมูลที่เสิร์ชบนอินเทอร์เน็ตมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เปรียบเสมือนเป็นคำแนะนำแบบส่วนตัวเลยทีเดียว

การสำรวจพบว่าข้อมูลที่ผู้บริโภคได้มาส่วนใหญ่เป็นการค้นหาผ่านเสิร์ชเอนจิ้น รวมไปถึงการค้นหาผ่านเว็บไซต์ที่มีการรวบรวมรีวิวและคำแนะนำต่างๆ ทั้งในเรื่องร้านอาหาร ที่พัก หรือแม้แต่สถานที่ท่องเที่ยว เช่น Google, Yelp และ Citysearch

ผลการรีวิวในเว็บไซต์เหล่านี้นับว่ามีอิทธิพลและมีผลกระทบโดยตรงต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากตัวอย่างของร้านอาหารที่ถูกรีวิวบนเว็บไซต์ Yelp (เว็บรีวิวร้านอาหารชื่อดังในอเมริกา) ในปี 2012 ที่ผ่านมา โดยร้านอาหารที่มีผลการรีวิวอยู่ในเกณฑ์ดีจะได้ผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคเป็นจำนวนมากจนมียอดจองเต็มทุกโต๊ะ แต่ในทางกลับกันร้านอาหารที่ผลการรีวิวอยู่ในเชิงลบ ก็ได้รับผลกระทบจนเหลือยอดจองโต๊ะเพียงแค่ 1 ใน 3 เท่านั้น

นอกจากนี้ในเว็บไซต์ Yelp ที่ใช้จำนวนดาวเป็นตัววัดความนิยมของร้านอาหารก็พบว่า การที่ร้านอาหารบางร้านมีจำนวนดาวเพิ่มขึ้นเพียงแค่ครึ่งดวง ก็ส่งผลถึงจำนวนลูกค้าที่จะเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิมถึง 30-49% ทีเดียว

สรุปแล้ว อิทธิพลของการรีวิวนั้นนอกจากผลของการรีวิวจะมีผลโดยตรงกับการทำธุรกิจ ยังเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการทำธุรกิจด้วย โดยสิ่งสำคัญที่แบรนด์หรือร้านค้าต่างๆไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ การรักษาคุณภาพในการทำธุรกิจให้อยู่ในเกณฑ์ดีอยู่เสมอ รวมไปถึงมีการจัดการด้านภาพลักษณ์และชื่อเสียงที่ดี และยังควรมองหาวิธีเพื่อรับมือกับฟีดแบคในด้านลบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย

คำถามสำหรับคุณในฐานะเจ้าของธุรกิจก็คือ

– คุณเคยเฝ้าระวังและติดตามรีวิวและคอมเม้นต์จากผู้บริโภค ที่ได้ไปโพสต์ไว้ตามเว็บรีวิวต่างๆไว้หรือไม่?

– คุณมีวิธีการแจ้งเตือนหรือวิธีรับรู้เมื่อมีคอมเม้นต์ในแง่ลบ (Negative Review) แล้วรึยัง?

– คุณได้เตรียมวิธีการรับมือกับสิ่งเหล่านี้ไว้บ้างแล้วรึยัง?

 

infographic-review-online

 

Credit: thumbsup.in.th  ,  visual.ly

-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

รับโปรโมท ประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร ,ดูแลการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจร้านอาหาร
ด้วย Digital Marketing สร้างช่องทางใหม่ๆ เรียกลูกค้าผ่านโลกออนไลน์
-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

Tags: , , ,

หมดยุคบัตรสะสมแต้ม สมัยนี้ต้อง App สะสมแต้มออนไลน์บนมือถือ

เชื่อว่าหลายๆร้านอาหาร ร้านกาแฟ จะคุ้นเคยกับการเล่นโปรโมชั่นการตลาดแนวสะสมแต้มบนบัตรสะสมแต้มแบบกระดาษ เมื่อลูกค้าซื้ออาหาร/เครื่องดื่ม ตามข้อกำหนด เช่น สั่งกาแฟ 1 แก้ว ได้รับแต้ม 1 ดวง ครบ 10 ดวงแล้วได้รับฟรี 1 แก้ว หรือ ทานอาหารครบ 300 บาทได้รับแสตมป์ 1 ดวง ครบ 10 ดวงได้รับคูปองแทนเงิน 300 บาท อะไรประมาณนี้ ซึ้งถือเป็นรูปแบบการทำการตลาดแนว Loyalty Program ยุคดั้งเดิมใช้มาเนิ่นนานแล้วจริงๆ

แต่พอนานวันเข้า ความสะดวกก็ไม่เหมือนเดิม มีปัญหาและยุ่งยากมากขึ้นหลายๆอย่าง เช่น

  • ลูกค้าต้องพกบัตรสะสมแต้มจากร้านกาแฟ ร้านอาหาร หลากหลายใบเกินความจำเป็น
  • บางทีมาทานอาหารที่ร้านแล้ว แต่ดันลืมพกบัตรติดมาด้วย
  • บัตรสะสมแต้มหาย เปียกน้ำ ฉีกขาด
  • สะสมแต้มเกือบครบแล้ว แต่ลืมดูวันหมดอายุของบัตร

แล้วจะทำอย่างไรดีละ???

app loyalty program

ปัญหาเหล่านี้ เกิดขึ้นกับลูกค้าหลายๆคน จนทำให้มีผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นบนมือถือสมาร์ทโฟน หลายๆเจ้าพัฒนา App แนวนี้ขึ้นมาให้พวกเราได้ใช้กัน

วันนี้ผมขอแนะนำ 4 App เด็ดบน Smartphone ที่ช่วยร้านอาหารไม่ต้องมาวุ่นวายกับปัญหาเดิมๆอีกต่อไป  

1. App Got it (ก็อทอิท)

คำนิยามบนเฟซบุ๊คของ App Got it อธิบายไว้ว่า

Got It ได้รวบรวมบัตรสะสมแต้มของร้านค้าต่างๆมาไว้ในที่เดียว ช่วยให้คุณไม่ต้องปวดหัวกับการพกบัตรไว้เต็มกระเป๋า ซึ่งบางทีก็ทำหายหรือลืมไว้ที่บ้าน แค่ใช้แอพ Got It สแกนป้าย QR ที่พนักงานยื่นให้เพียงเท่านี้คุณก็ได้แต้มสะสมไว้ในมือถือ แล้วคุณจะไม่พลาดของรางวัลอีกต่อไป

App Got it เป็นทีมนักพัฒนาที่มาจากการประกวดการแข่งขันจากงาน AIS Startup Weekend 2011 ที่รวมตัวกันพัฒนาจากแนวคิดที่ไม่อยากพกบัตรสะสมแต้มมากมายในกระเป๋าสตางค์ จนตอนนี้เปิดตัวได้ 1 ปีกว่าๆ มี App ให้ดาวโหลดทั้งบน iPhone และ Android Phone และมีร้านค้าเข้าร่วมเป็นพันธมิตรมากมาย

App Got it

 

Got-it_au bon pain

 

ซึ้งรูปแบบการใช้งานก็สะดวกสบาย เพียงเมื่อเข้าไปที่ร้านค้าที่ร่วมรายการ เมื่อสั่งอาหาร/สั่งเครื่องดื่มครบตามเงื่อนไข ก็แจ้งกับแคชเชียร์ว่าจะใช้ Got it App ในการสะสมแต้ม พนักงานจะเอาแผ่นป้าย QR-code มาให้สแกนผ่านตัวแอพ แล้วสะสมคะแนนบนแอพได้เลย พอครบตามกำหนดแล้ว ก็แจ้งพนักงานว่าจะ Redeem รับรางวัล พนักงานก็จะมีแผ่นป้าย QR-code อีกแผ่นมาให้สแกน เพื่อปลดล็อกรางวัลได้เลยทันที

สนใจรายละเอียดลองเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ http://www.facebook.com/gotitapp

 

2. App Tamp (แต๊มป์)

คำนิยามบนเฟซบุ๊คของ Tamp อธิบายไว้ว่า

แต๊มป์เป็นบัตรสะสมแต้มในรูปแบบดิจิตัล บนโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของคุณ รับแต๊มป์ทุกครั้งที่ใช้บริการจากร้านโปรด ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ ร้านขนม ร้านอาหาร หรือบริการอื่นๆ ฯลฯ ที่ร่วมรายการ เมื่อสะสมแต๊มป์ครบ แลกรางวัลและสิทธิ์พิเศษจากร้านโปรดของคุณ เมื่อใช้แต๊มป์คุณจะไม่ต้องกังวลว่าจะลืมบัตรสะสมแต้มอีกต่อไป เพราะทุกบัตรที่คุณต้องการจะอยู่ในสมาร์ทโฟนของคุณ

สำหรับ App Tamp หรือออกเสียงแบบไทยๆว่า “แต๊มป์” นั้นก็เป็นแอพสะสมแต้มออนไลน์อีกหนึ่งแอพที่เป็นที่นิยม มีแอพทั้ง 2 ค่ายแพลตฟอร์ม iOS and Android OS ไว้ให้บริการในขณะนี้

App Tamp

 

Promotion App Tamp

 

หลักการทำงานจะคล้ายๆกับ Got it คือใช้การสแกน QRcode ในการสะสมคะแนน

สนใจรายละเอียดลองเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ http://www.facebook.com/tampme

 

3. App Stamp (แอพ สแตมป์)

คำนิยามบนเฟซบุ๊คของ Tamp อธิบายไว้ว่า

 Stamp คือ app สะสมแต้มบนมือถือ ไม่ต้องพกบัตร Use your smartphone to collect stamps and earn rewards at your favorite businesses.

สำหรับแอพ Stamp นี้จะมีลูกเล่นมากกว่าแอพอื่นๆ ที่วิธีการสะสมแต้มออนไลน์ จะไม่ได้ใช้การให้มือถือของลูกค้าสแกน QRcode เหมือนเจ้าอื่นๆ แต่ทางผู้พัฒนาได้ประดิษฐ์เครื่องมือตัวสแตมป์อิเล็กทรอนิกขึ้นมาพิเศษ ที่รูปร่างเหมือนตรายางที่เราเคยเห็นๆทั่วไป แต่สามารถใช้สแตมป์สะสมคะแนนได้บนสมาร์ทโฟน

app stamp

 

app stamp promotion

สำหรับ App Stamp นี้ตอนนี้มีให้ดาวโหลดได้แล้วบน App Store ของฝั่ง Apple ส่วนทางด้านระบบ Android คาดว่าน่าจะมาเร็วๆนี้

สนใจรายละเอียดลองเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ http://www.facebook.com/getmystamp

 

4. BoxBox.Me

สำหรับ BoxBox.me นั้นไม่ได้จำกัดว่าเป็น App บนสมาร์ทโฟนเท่านั้น ถ้าลูกค้าของร้านเป็นกลุ่มคนใช้มือถือฟีเจอร์โฟนทั่วๆไปก็สามารถสะสมคะแนนกับทาง บ็อกบ็อกมี ได้เช่นกันเพียงบอกเบอร์โทรมือถือ ให้กับพนักงานก็สามารถสะสมแต้มออนไลน์ได้ทันที

app boxboxme

 

สนใจรายละเอียดลองเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ http://www.boxbox.me/

 

ถือว่าเป็นรูปแบบใหม่ของการเล่นโปรโมชั่นสะสมแต้มที่่น่าสนใจมากๆสำหรับธุรกิจร้านอาหาร ร้านกาแฟ ยุคสมาร์ทโฟนครองเมือง สนใจบริการของเจ้าไหนลองคลิกไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมกันเองนะครับ เพราะบางเจ้าก็มีบริการตัวทดลองใช้ฟรีให้ทดสอบกันก่อนด้วย

-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

รับโปรโมท ประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร ,ดูแลการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจร้านอาหาร
ด้วย Digital Marketing สร้างช่องทางใหม่ๆ เรียกลูกค้าผ่านโลกออนไลน์
-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

Tags: , , , , , , , , ,

การตลาดร้านอาหารกับสัมผัสทั้ง 5 – Sensory Marketing

วันนี้ขอเขียนบทความเกี่ยวกับ “การตลาดร้านอาหารกับสัมผัสทั้ง 5 – Sensory Marketing” ซึ้งอยู่ในหมวดหนึ่งของการทำการตลาดที่เกี่ยวเนื่องกับประสบการณ์ของลูกค้า (Experiential Marketing)

พูดกันง่ายๆ ว่าปัจจุบันนี้ใครจะเปิดร้านอาหารสุ่มสี่สุ่มห้า แล้วคิดว่าลูกค้าจะเดินเข้าร้านมากินง่ายๆ ไม่ค่อยมีอีกแล้ว เพราะลูกค้ายุคใหม่ ใช้หลายปัจจัย ในการเลือกทานอาหาร เลือกซื้อสินค้า เลือกใช้บริการ ฉะนั้นเราต้องสร้างประสบการณ์ภายในร้านอาหารของเรา ให้ลูกค้าได้มาสัมผัสรับรู้ความเป็นแบรนด์ของร้านเราผ่านสัมผัสทั้ง 5 สิ่ง และบ่งบอกความเป็นแบรนด์ของร้านอาหารเรา

5 Sence ห้าสัมผัสก็ประกอบไปด้วย รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส แล้วถ้าถามว่า สัมผัสทั้ง 5 มีส่วนในการสร้างแบรนด์ร้านอาหารของเราได้อย่างไร? ต้องอธิบายว่า หากยอมรับว่าการสร้างแบรนด์คือ การสร้างชื่อเสียง (Brand = Reputation) ชื่อเสียงที่สร้างขี้นจะต้องเป็นชื่อเสียงที่สัมผัสได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ทำให้ผู้บริโภครับรู้ว่าเมื่อมาร้านเรา เขาจะต้องได้รับสัมผัสไม่ทางใดทางหนึ่ง ก็หลายๆสัมผัสพร้อมๆกัน  เรื่องของ Sense มาเกี่ยวกับการสร้างแบรนด์ร้านอาหาร เพราะ Sense เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างเอกลักษณ์ของร้านอาหารเรา

Sense 1: Sight หรือ Visual identity

การจดจำสิ่งที่เห็นถือเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญที่สุด เช่น การเลือกโลโก้ร้าน สีธีมของร้าน การใช้แสงสีไฟภายในร้าน เป็นการสร้างภาพจดจำให้กับผู้บริโภค การทำร้านอาหาร คุณต้องมีแนวทางที่ชัดเจนว่าร้านจะใช้ธีมร้านสีอะไร ใช้โลโก้ร้านแบบไหน สีหลักเป็นสีอะไร ให้อารมณ์ ความรู้สึกแบบไหน นั้นเป็นภาพจดจำที่ชัดเจนในทุกครั้งที่ลูกค้ากลับมาใช้บริการของร้านของคุณ ลองนึกถึงร้าน Mcdonald’s ซิคุณนึกถึงอะไร ภาพโลโก้รูปตัวเอ็มใหญ่ๆ อยู่ในแบร็คกราวน์สีแดง โผล่ออกมาเลยใช่ไหม่ หรือนึกถึงร้านกาแฟสตาร์บัค ภาพนางเงือกบนโลโก้สีเขียว บรรยากาศภายในร้านที่น่านั่ง แสงไฟที่ไม่สว่างมากนัก เหมาะต่อการนั่งจิบกาแฟไปพร้อมกับดื่มด่ำบรรยกาศภายในร้านไปเรื่อยๆใช่ไหม

ทำร้านอาหารสมัยนี้ บรรยากาศภายในร้าน ถือเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างแรกๆ เพราะหลายๆคนไม่ได้เลือกร้านที่จะนั่งทานจากความอร่อยของอาหารป็นอันดับแรกแล้ว บรรยากาศภายในร้านตั้งหาก ที่มีส่วนช่วยตัดสินใจเดินเข้าร้าน ร้านอาหารหลายๆร้านในเมืองกรุงจึงให้ความสำคัญกับการออกแบบตกแต่งร้านอาหาร ให้มีสไตล์เป็นของตัวเอง เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่

Sense 2 : Smell หรือ Olfactory identity

กลิ่น ถือว่าเป็นสัมผัสที่สำคัญมาก ต่อธุรกิจร้านอาหาร การทำให้ลูกค้าได้จดจำกลิ่นของอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ได้ ย่อมได้เปรียบทางการแข่งขัน ขอยกตัวอย่างเคสร้านสตาร์บัค เกี่ยวกับเรื่องกลิ่นอีกครั้ง ใครการตามที่เดินผ่านร้านสตาร์บัค จะต้องได้รับกลิ่นหอมๆของกาแฟสตาร์บัค ฟุ้งออกมารอบๆร้าน จนยั่วยวนใจให้เดินเข้าไปใช้บริการ ทั้งทีบางทีอาจจะไม่ได้มีเป้าหมายอยากดื่มมาก่อนก็ตาม

อีกเคสนึง ขอยกตัวอย่างจริงจากร้านเล็กๆร้านนึง ขายข้าวโพดอบเนย ร้านตั้งอยู่ใกล้ทางขึ้นเรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา เจ้าของร้านสังเกตุว่าเวลาที่มีลูกค้ามาซื้อข้าวโพดอบเนยที่ร้าน อีกสักพักก็มักจะมีลูกค้าคนที่ 2-3 ตามมาซื้อติดๆกันเสมอ ก็เนื่องมาจาก พอแม่ค้าเปิดฝาหม้อนึ่งอบข้าวโพด กลิ่นหอมยั่วยวนใจ ก็ได้ไปกระตุ้นจมูกของลูกค้าคนอื่นๆที่เดินผ่านมา จนต้องหยุดซื้อตามๆกัน จนตอนหลังแม่ค้ารู้เทคนิคนี้ก็เลย ใช้วิธีเปิดฝาหม้อนึ่งให้กลิ่นหอมๆ โชยออกมาทุกครั้งที่มีเรือเข้ามาจอดที่ท่า ผลก็คือได้ลูกค้ามุงซื้อข้าวโพดอบเนยมากมาย เป็นเทคนิคเล็กๆที่ดึงดูดลูกค้าได้ดีอย่างทีเดียว ลองประยุกต์ไปใช้กันดูนะครับ

Sense 3 : Sound หรือ Sonic identity

เสียง เป็นอีกหนึ่งสัมผัสที่สามารถสร้างความจดจำต่อแบรนด์ได้ ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น เพลงจิงเกิ้ลของรถขายไอติม Wall’s ถึงแม้ว่าตัวเราอยู่ในบ้าน แต่เมื่อได้ยินเสียงนี้เมื่อไร ก็จดจำได้ว่ารถขายไอติมวอลล์มาแล้ว เป็นการสร้างความจดจำด้านเสียง ที่ปลุกฝังมานาน กรณีร้านอาหารการใช้เสียง ภายในร้านมีได้หลายแบบ ทั้งเสียงเพลงที่เปิดภายในร้าน ควรทำให้เป็นธีมเดียวกัน ถ้ามาร้านเราจะต้องเปิดเพลงแนวนี้เท่านั้น ไม่ใช่มั่วเปิดเพลงทุกสไตล์

หรือการสร้างเอกลักษณ์ทางเสียงขณะประกอบอาหาร ก็เป็นอีกวิธีนึงที่น่าสนใจเช่นกัน ยกตัวอย่างร้านทาโกะยากิชื่อดังร้านนึง ชื่อร้านกินดาโกะ ซึ้งเป็นร้านขายทาโกะยากิอย่างเดียวจากญี่ปุ่นมาเปิดในไทย จุดเด่นอย่างนึงของร้านนี้ซึ้งถือเป็นกิมมิคที่ดีคือ ขณะพนักงานกำลังตั้งใจทำเจ้าทาโกะยากิอยู่ พนักงานจะพร้อมใจกันตะโกนเป็นภาษาญี่ปุ่นดังๆ “อิรัชไชมาเซะ!” และคำอื่นอีก(ฟังไม่ออก) แต่เป็นการเรียกลูกค้า และสร้างบรรยากาศขณะรับประทานได้ดีทีเดียว จนหลายๆคน แค่เดินผ่าน พอได้กลิ่นหอมและเสียงเรียกลูกค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของร้าน ก็กลายมาเป็นตัวเรียกลูกค้าเข้าร้านได้สบายๆ

Sense 4 : Unique Taste

รสชาติ แน่นอนธุรกิจร้านอาหาร รสชาติเป็นปัจจัยหลักที่ต้องให้ความสำคัญ การสร้างสรรค์รสชาติอาหารให้มีเอกลักษณ์เฉพาะของร้าน ยากต่อการเลียนแบบ จะทำให้ลูกค้าติดใจในฝีมือการทำอาหารของร้านคุณ  จนต้องกลับมาทานใหม่ คุณลองคิดซิ เคยไหมที่อยากกินอาหารเมนูนี้ แล้วต้องไปกินที่ร้านนี้เท่านั้น นั้นแหละที่เรียกว่า Unique Taste

Sense 5 : Touch  หรือ Tactile identity

การสร้างการรับรู้ของแบรนด์ผ่านการสัมผัส สำหรับร้านอาหารคงต้องพูดถึงการทำให้ลูกค้าได้มีกิจกรรมเล็กๆน้อยๆ ในระหว่างที่ทาน หรือก่อนการทาน ไม่ใช่อาหารที่ปรุงมาเสร็จแล้วทานได้ทันที แต่อาจจะมีกิมมิคอะไรเล็กน้อย ให้ลูกค้าได้ D.I.Y ทำเองอีกนิดก่อนทาน หรือจัดการกับอาหารของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น

  • ร้านเปปเปอร์ลันซ์ ร้านสเต็กญี่ปุ่น ที่เสริฟ์อาหารแบบจานร้อนที่ยังปรุงไม่สุกเต็มที่ แต่ให้ลูกค้ามาทำการคลุกเคล้าเองบนโต๊ะอาหารต่ออีกนิด ควันหอมกรุนๆ การละเลงอาหารด้วยตัวเอง เป็นการสร้างประสบการณ์ก่อนทาน ที่ดีทีเดียว
  • ร้านอาหารแนวปิ้งย่าง ร้านสุกี้หม้อไฟ ร้านจิ้มจุ่ม ก็จัดเป็นร้านอาหารที่ลูกค้าได้มีประสบการณ์ในการปรุงอาหารเอง ก่อนทาน ก็ถือเป็นอีกแนวทางหนึ่งของการสร้างการรับรู้ผ่านการสัมผัสเช่นกัน

อ่านมาครบ สัมผัสทั้ง 5 แล้วลองเอาไปปรับดูนะครับ ว่าร้านอาหารของคุณจะสามารถประยุกต์เอา Sense ไหนไปใช้ได้บ้าง ยิ่งร้านคุณสามารถสร้างการรับรู้หลายๆสัมผัสมากเท่าไร ลูกค้าก็จะยิ่งจดจำแบรนด์ของคุณได้มากเท่านั้น สุดท้ายอวยพรขอให้ทุกท่านขายดิบขายดีครับ

 

-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

รับโปรโมท ประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร ,ดูแลการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจร้านอาหาร
ด้วย Digital Marketing สร้างช่องทางใหม่ๆ เรียกลูกค้าผ่านโลกออนไลน์
-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

Tags: , ,